แต่ไม่สามารถยื่นฟ้องต่อศาลได้เนื่องจากนายทักษิณ ขอเลื่อนการฟังคำสั่งเพราะป่วยโควิด-19 อัยการอนุญาตให้เลื่อนนัดไปวันที่ 18 มิ.ย. 2567 ให้นายทักษิณมาพบพนักงานอัยการ เพื่อยื่นฟ้องต่อศาลต่อไป ซึ่งตรงนี้ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมืองอีกครั้งนี้ โดยมีอิสรภาพของ “ทักษิณ” เป็นเดิมพัน??
เพราะถ้าวันที่ 18 มิ.ย.นี้ “ทักษิณ” เดินทางไปพบอัยการตามขั้นตอน อาจต้องนำตัวส่งฟ้องศาล และเมื่อศาลมีคำสั่งรับฟ้องแล้ว ณ เวลานั้น “ทักษิณ” จะมีสถานะเป็นจำเลยในคดีอาญาทันที จึงทำให้ต้องมีการชิงไหวชิงพริบในการยื่นประกันตัว ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก
เนื่องจากดูจากบรรทัดฐานของศาลที่ผ่านมาใน คดี 112 โดยเฉพาะ “กลุ่มแกนนำคณะราษฎร” หรือ “แกนนำม็อบเยาวชน” ทั้งหลาย เช่น อานนท์ นำภา ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ลูกเกด น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ “ลูกเกด” สส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ “แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์” หรือแม้กระทั่ง “บุ้ง” เนติพร เสน่ห์สังคม ที่เพิ่งเสียชีวิตในเรือนจำ เป็นต้น จะพบว่าส่วนใหญ่จะไม่ได้รับการประกันตัวในช่วงแรก แต่จะได้รับการประกันตัวหลังจากอยู่ในเรือนจำไปสักระยะ ซึ่งหากกระบวนการดำเนินการแตกต่างกันก็จะทำให้เกิดข้อเปรียบเทียบ เหมือนเช่นกรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ที่ทำให้สังคมกังขามาถึงทุกวันนี้
ดังนั้นเมื่อมองมาที่สถานการณ์ของ “ทักษิณ” ในปัจจุบันก็ถือว่ามีความสุ่มเสี่ยงอยู่ เนื่องจากคดี 112 นี้ เป็นการฟ้องในระหว่างที่ “ทักษิณ” หลบหนี จึงอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้อัยการคัดค้านการประกันตัว ซึ่งต้องรอดูว่าศาลจะพิจารณากรณี “ทักษิณ” อย่างไร จึงต้องจับตาอย่างใกล้ชิดแบบกะพริบตาไม่ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองในเกมการเมืองครั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็น คดี 112 ถือเป็นชนักปักหลัง “ทักษิณ” พอสมควร เนื่องจากจะพบว่าในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา จะพบว่า “ทักษิณ” มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองถี่ขึ้น โดยเฉพาะการปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณะ มีหัวหน้าส่วนราชการมาล้อมหน้าล้อมหลัง รวมเป็นการเป็น “นายกฯ ตัวจริง” ที่มีบทบาทสำคัญในการปรับครม. “เศรษฐา 1/2” แบบที่ส่ง “สายตรง” มานั่งในตำแหน่งสำคัญๆ แม้แต่ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ก็ได้แต่มองตาปริบๆ จนเกิดปัญหา “ถุงขนม 2 ล้าน” ในขณะนี้
จนกระทั่ง การลงสมัคร สว. ของ “น้องเขย” นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ จ.เชียงใหม่ ตรงนี้ยิ่งทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา ว่า ทั้งการเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ” และการปรากฏตัวของ “สมชาย” ในสนาม สว. จะนำมาซึ่ง “ระบอบทักษิณ” จะกลับมาฟื้นคืนชีพ เหมือนก่อนเกิดรัฐประหาร ในปี 2549 หรือไม่
เนื่องจากมีการมองว่า “นายกฯ คนต่อไป” อาจจะเป็น “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ดีเอ็นเอ สายตรง “ทักษิณ” เป็นตัวเต็ง จึงทำให้ภาพการเมืองอนาคต “ตระกูลชินวัตร” จะกลับมากินรวบทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร เหมือนในอดีตที่ผ่านมา
ดังนั้นคดี 112 จึงถูกมองว่าจะเป็น “ชนักปักหลัง” และ “โซ่ตรวน” ที่ไม่ให้ “ระบอบทักษิณ” ขยายใหญ่ไปมากกว่านี้ ก่อนที่ “ทักษิณ” จะได้รับอิสรภาพอย่างสมบูรณ์ หลังวันที่ 22 ส.ค.นี้
