กรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ออกมาเผยว่า ตำรวจอินโดนีเซีย สามารถจับกุม นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ “แป้ง นาโหนด” นักโทษหลบหนีจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช หลังออกอุบายให้พาตัวออกมาจากเรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อรับการรักษาแล้วหลบหนี กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพลิกแผ่นล่าตัวนานหลายเดือนแต่ก็ล้มเหลว แถม เสี่ยแป้ง นาโหนด ยังมีการไลฟ์สดออกมาแฉข้อมูลอย่างสบายใจอีก กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว

บุกรวบ “ดาบตำรวจหญิง” อุ้มหนุ่มอินโดฯ เรียกค่าไถ่ 2.3 ล้าน ออกหมายจับอีก 2

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่ แป้ง นาโหนด ถูกจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา นายแดเนียล ซิโฮมบิง รองกงสุลสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำจังหวัดสงขลา ประสานตำรวจไทย ว่าได้รับแจ้งจากสถานทูตอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย ว่ามีญาติ Mr.SYAWANA (ชาวานา) อายุ 29 ปี สัญชาติอินโดนีเซีย ที่ทางประเทศอินโดนีเซีย แจ้งว่า Mr.SYAWANA ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ชาวไทย จับตัวไปในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนพาไปกักขังไว้ในพื้นที่ อ.เมืองพัทลุง ถูกซ้อมทรมานอัดคลิปวิดีโอส่งไปยังน้องสาวผู้แจ้ง พร้อมเรียกค่าไถ่เป็นเงินไทย 2,300,000 บาท ด้วยความเป็นห่วงจึงโอนเงินไปแล้วบางส่วน 800,000 บาท ก่อนเข้าแจ้งทางการอินโดนีเซีย ประสานขอความช่วยเหลือดังกล่าว

ต่อมา พล.ต.ต.ณฐกรญ์ กาญจนาภรณ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง เรียกประชุมลับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง ชุดสืบสวนสบสวน และชุดพนักงานสอบสวน เพื่อกระจายกำลังลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนรวบรวมหลักฐาน กระทั่งพบผู้ต้องสงสัย ทราบชื่อ นายวีระศักดิ์ ซึ่งต่อมากลายเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีลักพาตัวเรียกค่าไถ่ Mr.SYAWANA ซึ่งตรวจสอบประวัติพบว่า เป็นลูกน้องของนายเชาวลิต หรือ แป้ง นาโหนด จึงขออนุมัติหมายจับเข้าจับกุมตัวมาสอบสวน ก่อนเข้าช่วยเหลือ Mr.SYAWANA ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุง และจากการสอบปากคำนายวีระศักดิ์ เบื้องต้นได้ให้การซัดทอดผู้ร่วมก่อเหตุอีกหลายราย ในจำนวนนี้มี ด.ต.หญิงเพลินพิศ จันทร์เทศ สังกัดตำรวจภูธรภาค 9 ร่วมด้วย โดยเป็นคนรับตัว Mr.SYAWANA จากสงขลา มาส่งที่พัทลุง จึงขออนุมัติหมายจับศาล และเข้าจับกุมตัวได้ใน จ.สุราษฎร์ธานี ขณะที่ Mr.SYAWANA ประสานทางการอินโดนีเซีย มารับตัวกลับไป หลังสอบปากคำไว้เป็นหลักฐานเสร็จแล้ว

ด่วน! นายกฯแจ้ง “แป้ง นาโหนด” สิ้นฤทธิ์ ถูกจับกุมแล้วที่อินโดนีเซีย

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ส่วนความเกี่ยวข้องกับ แป้ง นาโหนด ในคดีดังกล่าว เบื้องต้นทราบว่า ภายหลังหนีคดีคุมขังเรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช หลบหนีการไล่ล่าจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นเวลาแรมเดือน กระทั่งมีกระแสข่าวว่า พรรคพวกที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น และ ตำรวจ พาลงเรือที่ อ.ละงู จ.สตูล ไปหลบซ่อนตัวที่เมืองเมดาน ประเทศอินโดนีเซีย แต่พฤติกรรมของ แป้ง นาโหนด ยังไม่เปลี่ยน มีการเข้าไปพัวพันขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยติดต่อค้ายาเสพติดผ่านกลุ่มค้ายาเสพติดใน จ.พัทลุง และสงขลา โดยลูกค้าเป็นชาวอินโดนีเซีย

กระทั่งล่าสุดเมื่อต้นเดือน พ.ค. แป้ง นาโหนด ได้ขายไอซ์ลอตใหญ่ให้พ่อค้าชาวอินโดฯ แต่มีปัญาเงินค่ายาไม่พอ ยังค้างอยู่กว่า 2 ล้านบาท พ่อค้าชาวอินโดนีเซีย จึงให้ Mr.SYAWANA เพื่อนร่วมแก๊งเป็นตัวประกัน และมีชาวมุสลิมจาก จ.นราธิวาส อีก 2 คน ทำหน้าที่เป็นล่าม โดยสมุนของ แป้ง นาโหนด ที่เป็น ด.ต.หญิง ขับรถมารับคนทั้ง 3 ไปควบคุมตัวไว้ที่บ้านหลังหนึ่ง ใน ต.ท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุง แต่หลังจากที่สมุนของ แป้ง นาโหนด ควบคุมตัว Mr.SYAWANA ไว้หลายวัน แก๊งยาเสพติดก็ยังจ่ายเงินให้แป้งไม่ได้ Mr.SYAWANA ทนไม่ไหวที่จะถูกควบคุมตัวไว้อีก ต้องการให้สมุนของแป้ง ปล่อยตัว แต่สมุนของแป้ง ไม่ยอม จึงจัดฉากว่าถูกจับตัวมาเรียกค่าไถ่ และถูกซ้อมทรมาน ก่อนส่งคลิปให้น้องสาวตัวเองที่อยู่ในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อให้โอนเงิน 2 ล้านบาท มาไถ่ตัวออกไป แต่น้องสาวโอนเงินมาเพียง 8 แสนบาท และไปแจ้งทางการ ประสานตำรวจไทยช่วยเหลือ เรื่องจึงแดง ก่อนบานปลายจนมีการจับกุม แป้ง นาโหนด ในที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยภายหลัง Mr.SYAWANA กลับประเทศไป เชื่อว่าทางตำรวจอินโดนีเซีย ยังมีการทำการสืบสวนสอบสวนขบวนการยาเสพติดภายในประเทศและขยายผลจาก Mr.SYAWANA จนพบความเกี่ยวโยงจนสามารถจับกุม แป้ง นาโหนด ได้ดังกล่าว ซึ่งหาก แป้ง นาโหนด พักอาศัยอยู่ในประเทศอินโดนีเซียแบบเงียบๆ ก็คงยังไม่ถูกจับกุมแม้ว่าจะมีหมายแดง เพราะตำรวจอินโดนีเซียไม่ได้ให้ความสนใจเพราะเป็นคดีในประเทศไทย กระทั่งเข้าไปร่วมขบวนการยาเสพติด และยังก่อเหตุกับคนอินโดนีเซีย เลยทำให้ต้องถูกจับกุมดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ทางการอินโดนีเซีย ยังอยู่ระหว่างสอบสวนรวบรวมหลักฐานเอาผิดขบวนการยาเสพติดในประเทศ และหากพบหลักฐานชัดเจนว่า แป้ง นาโหนด เกี่ยวข้อง ก็จะมีการดำเนินคดีกับ แป้ง นาโหนด ในอินโดนีเซีย ก่อน แต่หากหลักฐานไม่สามารถเอาผิด ไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ก็จะถูกส่งตัวมาดำเนินคดีในไทยต่อไป