นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์  ผู้อำนวยการประเทศไทย อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส ประเทศไทย (เอดับบลิวเอส) เปิดเผยในงาน AWS Summit in Bangkok ว่า บริษัทเตรียมจะเปิด เอดับบลิวเอส เอเชีย แปซิฟิก (แบงค็อก) รีเจิน ซึ่งเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ระดับภูมิภาคในประเทศไทย ในช่วงต้นปี 68 นี้ ซึ่งเป็นไปตามแผนการลงทุน จำนวน 1.9 แสนล้านบาท ภายในปี 2580 ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อม ในการให้บริการทางด้านคลาวด์ และการลงทุนในด้านการให้บริการส่งตรงฐานข้อมูลจากประเทศไทยไปสิงคโปร์ด้วย  รวมถึงมุ่งมั่นในการพัฒนาแพลตฟอร์ม เอไอ และ คลาวด์ในไทย เพื่อให้บุคลากรและองค์กรต่างๆ สามารถใช้บริการในประเทศไทย ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

“บริษัทมุ่งมั่นในการลงทุนในไทย ซึ่งดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่ ที่กำลังจะเปิดใช้งานนี้เป็นโครงสร้างพื้นฐานของ เอดับบลิวเอส ในประเทศไทย ซึ่งเพิ่มเติมจาก เอดับบลิวเอส เอาท์โพสท์ และ เอดับบลิวเอส โลเคิล โซน ที่มีอยู่แล้วในประเทศไทย และถือเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ ระดับภูมิภาค ที่สี่ของ เอดับบลิวเอส ที่เปิดตัวในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งประกอบไปด้วย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย  ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถเก็บข้อมูลของตนไว้ในประเทศไทย ช่วยให้ลูกค้าสามารถลดความหน่วงของการรับส่งข้อมูลได้มากยิ่งขึ้น และตอบสนองความต้องการที่เติบโตขึ้นอย่างมากในการใช้คลาวด์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

นายวัตสัน กล่าวต่อว่า  นอกจากนี้ ยังช่วยให้นักพัฒนา สตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการ และองค์กรต่างๆ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และองค์กรไม่แสวงผลกําไร สามารถเลือกใช้บริการคลาวด์ สำหรับรันแอปพลิเคชัน และให้บริการแก่ผู้ใช้ปลายทางจากศูนย์ข้อมูลที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังเติบโตของประเทศไทย  และช่วยพลิกโฉมอุตสาหกรรมต่างๆ เพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจ เป็นการช่วยขับเคลื่อนให้ประเทศไทย ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในภูมิภาคด้วย

“AWS Region ในประเทศไทยจะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยในด้านดิจิทัลและรองรับความต้องการของตลาดในด้านเทคโนโลยีคลาวด์ เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมทั้งในประเทศไทยและทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งสอดคล้องไปกับวิสัยทัศน์ “Ignite Thailand” และนโยบาย “Cloud-First” ของภาครัฐ ที่มุ่งพัฒนาประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลด้วยการขับเคลื่อนนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และเทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐานแห่งใหม่นี้จะช่วยให้ลูกค้าตั้งแต่สตาร์ทอัพ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMB) ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ และหน่วยงานภาครัฐ สามารถร่วมมือ ทดลอง พัฒนาและเติบโตไปด้วยกัน การเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุด เช่น Generative AI, แมชชีนเลิร์นนิง (Machine Learning: ML), Internet of Things (IoT) และอื่นๆ อีกมากมาย”

อนึ่ง งาน AWS Summit in Bangkok เป็นส่วนหนึ่งของงานประชุมประจำปี AWS Global Summit โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 2,500 คน ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี นักธุรกิจ นักลงทุนชั้นนำของไทยและต่างประเทศ ซึ่งจะร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ด้าน Cloud Computing และเทคโนโลยีเกิดใหม่อื่นๆ ผ่านงานสัมมนากว่า 30 หัวข้อ และบูธจัดแสดงเทคโนโลยีอีก 29 บูธ