ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดกำแพงเพชร นายชาธิป รุจนเสรี ผวจ.กำแพงเพชร เป็นประธานนำคณะผู้บริหาร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมพิธีวางพวงมาลา และกล่าวถวายราชสดุดี เบื้องหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ เนื่องในวันที่ระลึก “พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว” ประจำปี 2567 โดยมี น.ส.สุพัตรา คล้ายทิม รอง ผวจ.แพงเพชร, นางกาญจนี รุจนเสรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกำแพงเพชร นายกองเอกชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ ปลัดจังหวัดกำแพงเพชร ข้าราชการพลเรือน ตุลาการ ศาล ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธี

นายชาธิป กล่าวว่า ตลอดรัชสมัยที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงอุทิศพระองค์ บำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ และทรงปกครองพระราชอาณาจักรให้มีความมั่นคง และร่มเย็นเป็นสุข วางรากฐานการพัฒนาประเทศทั้งการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2436 ทรงเป็นพระราชโอรสองค์สุดท้อง ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2469 และทรงพระองค์ประทับอยู่ที่ประเทศอังกฤษ จนสวรรคตเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พุทธศักราช 2484 ขณะมีพระชนมายุ 48 พรรษา

สำหรับพระราชกรณียกิจสำคัญ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับถาวรครั้งแรกในวันที่ 10 ธันวาคม พุทธศักราช 2475 ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อประเทศชาติ และประชาชน ทั้งด้านการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และศาสนา การพัฒนาการเมืองปสู่ระบอบประชาธิปไตย ทรงสถาปนาราชบัณฑิตยสภา ทรงประกาศพระราชบัญญัติประถมศึกษา พุทธศักราช 2464 ทรงโปรดให้สร้างหอพระสมุด สำหรับพระนคร เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าศึกษาได้อย่างเสรี องค์การยูเนสโกจึงได้ประกาศยกย่องพระองค์ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลก เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ รวมทั้งเป็นการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พุทธศักราช 2545 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้วันที่ 30 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวัน “พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว” อันเป็นวันรัฐพิธี โดยไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ