เมื่อวันที่ 29 พ.ค. นางรัศมี สมีตั้น อายุ 63 ปี พี่สาว ได้พานางวาสนา ดิฟเลย์ อายุ 62 ปี น้องสาว ทั้งสองอยู่บ้านเลขที่ 635/1 หมู่ 14 ชุมชนเก่าจาน ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี มาไหว้พระใหญ่ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปในศาลาการเปรียญวัดธรรมเสนา ซึ่งเป็นที่พึ่งทางจิตใจ เพื่อขอให้ได้พบลูกชาย ที่พลัดพรากจากกันมาประมาณ 20 ปี หลังจากนางวาสนา นำรูปลูกชายไปแจ้งความที่โรงพักเมืองอุดรธานี ว่าอยากพบลูกชายที่พลัดพรากจากกัน แต่ตำรวจไม่ได้รับแจ้ง เพราะไม่ใช่คนหาย จึงได้มาขอให้นักข่าวช่วย

นางรัศมี เล่าว่า ได้พานางวาสนา น้องสาวมากราบไหว้บนบานพระใหญ่ ให้ได้พบลูกชายที่พลัดพรากกัน 20 ปี ถ้าพบลูกชายจะนำนางรำมารำถวาย 12 คน โดยนางวาสนามีน้องฝาแฝด น้องสาวแต่งงานกับชาวต่างชาติแล้วย้ายไปอยู่ที่แคนนาดา ส่วนนางวาสนาไปทำงานที่กรุงเทพฯ และได้พบรักกับนายบิว ดิฟเล่ย์ แฟนชาวอเมริกา จึงได้อยู่กินฉันสามีภรรยาที่ประเทศไทย มีลูกชาย 1 คน ชื่อจิมมี่ ดิฟเล่ย์ พอลูกอายุได้ 5 ขวบ สามีได้พาย้ายไปอยู่ที่พอร์ตแลนด์ สหรัฐอเมริกา เมื่อไปถึงจึงรู้ว่านายบิว มีภรรยาและลูกชายอยู่ก่อนแล้ว แต่นายบิว สามีก็พานางวาสนากับน้องจิมมี่แยกมาอยู่ในรถบ้าน

นางรัศมี เล่าต่อว่า นายบิว พานางวาสนาและลูกมาอยู่ที่อเมริกา โดยใช้วีซ่าท่องเที่ยว ทำให้นางวาสนาอยู่แบบคนหลบหนีเข้าเมือง จนน้องจิมมี่อายุได้ 12 ปี นายบิว สามีได้เสียชีวิต ภรรยาคนแรกของนายบิว ได้สอบถามนางวาสนา ว่าจะอยู่หรือกลับเมืองไทย ซึ่งนางวาสนา เลือกกลับเมืองไทย และฝากน้องจิมมี่ ให้ภรรยาคนแรกและพี่ชายดูแลน้อง หลังจากที่เดินทางกลับเมืองไทยคนเดียว มานานถึง 20 ปี น้องจิมมี่ ก็ไม่ได้ติดต่อมาหา นางวาสนาเลย ส่วนนางวาสนา ก็มีอาการโรคซึมเศร้าจนกลายเป็นจิตเวช ต้องนำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาล ต้องกินยาทุกเดือน พอมีอาการจะอาละวาด ร้องไห้ จำใครไม่ได้ แต่นางวาสนา จะนำรูปน้องจิมมี่ลูกชายมาดู และบ่นคิดถึงลูกตลอด

“รู้สึกสงสารน้องสาวมาก ที่ต้องพลัดพรากจากลูกชายคนเดียว ทำให้มีอาการป่วยทางจิตเวช ตนก็ได้แต่พาไปรักษา และดูแลกันอยู่ที่บ้าน ไม่รู้จะช่วยอย่างไร พึ่งรู้ว่าน้องสาวเอารูปลูกชายไปแจ้งความที่โรงพัก เพราะอยากให้ตำรวจตามหาลูกชายให้ จึงพาน้องไปบนบานกับหลวงปู่ใหญ่ ขอให้สมหวังจะนำนางรำมาแก้บน 12 คน” นางรัศมี กล่าว

ส่วน นางวาสนา เล่าว่า เมื่อ 32 ปีก่อน ตนไปทำงานที่บาร์ที่สุขุมวิทซอย 4 และได้พบรักกับนายจิม ดิฟเล่ย์ ซึ่งมานั่งดื่มเหล้าที่บาร์ จากนั้นก็ได้ตกลงอยู่กินฉันสามีได้ 5 เดือนก็ได้ตั้งครรภ์น้องจิมมี่ ตนเลี้ยงลูกอยู่ประเทศไทยจนน้องจิมมี่อายุได้ 5 ปี นายบิว สามีได้พาย้ายไปอยู่ที่เมืองพอร์ตแลนด์ สหรัฐอเมริกา พบว่านายบิว มีภรรยาและลูกชายอยู่ก่อนแล้ว แต่นายบิว ก็อยู่กับตน จนน้องจิมมี่อายุ 12 ปี นายบิวก็เสียชีวิต ตนได้กลับมาเมืองไทย โดยให้น้องจิมมี่อยู่กับพี่ชายต่างมารดา ซึ่งรับปากกับตนว่าจะดูแลน้อง หลังจากที่กลับมาเมืองไทยจนถึงวันนี้เป็นเวลา 20 ปี ตนติดต่อกับน้องจิมมี่ไม่ได้ รู้สึกคิดถึงลูกมาก ต้องนำรูปลูกชายมาดูประจำ และฝันเห็นลูกชาย 2 ครั้ง

“วันนี้มีแม่ค้าร้านขายอาหาร ได้แนะนำให้ตนนำรูปน้องจิมมี่มาแจ้งความที่โรงพักเมืองอุดรธานี ประกาศหาตามหาลูกที่พลัดพรากจากกัน ตนจึงไปโรงพัก แต่ตำรวจบอกว่าไม่ใช่คนหาย รับแจ้งไม่ได้ แต่จะประสานไปที่ตำรวจท่องเที่ยวให้ติดตามหาให้ จึงได้กลับมาบ้าน และเล่าให้พี่สาวฟัง พี่จึงพามากราบไหว้บนบานพระใหญ่ที่วัด ขอให้น้องจิมมี่ลูกชายติดต่อมาหาแม่ เพราะคิดถึงลูกมาก น้องจิมมี่คงจะเป็นหนุ่มอายุ 32 ปีแล้ว ซึ่งตนจะรอลูกติดต่อกับมา ถ้าลูกติดต่อมาหาจะพานางรำมารำถวาย 12 คน” นางวาสนา กล่าว