กลายเป็นซูเปอร์สตาร์นางเอกเบอร์หนึ่งของเมืองไทย ที่ใครหลายๆ คนนั้นรู้จักเป็นอย่างดี สำหรับสาว “เบลล่า-ราณี แคมเปน” ซึ่งล่าสุดได้รับรางวัลเกียรติยศสาขาละคร นักแสดง ทรงคุณค่าตลอดกาล ในงานประกาศรางวัล คมชัดลึก อวอร์ด ซึ่งในงานเธอก็ได้กล่าวถึงความรู้สึกบนเวที ทำเอาแฟนๆ หลายๆ คนปลื้มใจกับคำพูดของเบลล่าอย่างมาก

โดยสาวเบลล่า ได้ขึ้นพูดสปีชที่ทำเอาคนฟังนั้นทัชใจอย่างมาก โดยเธอพูดว่า “เบลขอเล่าถึงชีวิตของเบลให้ทุกคนฟังนะคะ ชีวิตในวงการของเบลไม่ได้มาแบบสวยหรู หรือโรยด้วยกลีบกุหลาบ ถ้าเปรียบเป็นม้าแข่ง เบลไม่ใช่ตัวเต็ง เบลต้องลุ้นทุกสนามว่าเบลจะได้ลงแข่งหรือเปล่า สนามนี้เราจะได้แสดงฝีมือให้คนเห็นไหม มันเป็นแบบนั้นมาตั้งแต่เริ่มต้น เบลไม่ใช่เบลที่ทุกคนเห็นว่ามีชื่อเสียง หรือเป็นที่รักอย่างที่ทุกคนเห็นกันอย่างทุกวันนี้”

“ตอนแรกที่เบลเข้าช่อง 3 มา เบลเป็นเด็กฝึก เบลต้องนั่งรถตู้จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต เพื่อมาที่ช่อง 3 คือพระราม 4 เป็นเวลาหลายวันต่อสัปดาห์เพื่อที่จะเรียนรู้ และก็รอโอกาส จนได้ละครเรื่องแรก เบลไม่ได้เริ่มต้นด้วยการเป็นนางเอก แต่เบลเป็นนางร้ายในเรื่องรอยมาร ตั้งแต่ปี 54 หลังจากน้้นก็ขยับมาเป็นนางรองละครเย็น เรื่องตะวันยอดรัก ทั้งสองเรื่องเป็นของอาปิ่น ขอบคุณที่ให้โอกาสแรกกับเบล จนเบลได้มาเป็นนางเอกละครหลังข่าวเรื่องแรก ก็คือ พรพรหมอลเวง ของพี่ตู่ ปิยวดี ต่อด้วยสุภาพบุรุษจุฑาเทพ คุณชายพุฒิภัทร เรื่องนี้ของพี่แหม่ม เบลก็แคสต์อยู่เป็นปี กว่าจะได้บทกรองแก้ว จากนั้นก็มีผู้จัดหลายๆ คนให้โอกาสเบลเรื่อยมา ลูกทาส เพลิงฉิมพลี ภพรัก ปดิวรัดา วิมารเมขลา จนมา เพลิงบุญ ที่เป็นละครดราม่าเข้มข้น ซึ่งในปีนั้นเรื่องนี้ได้เรตติ้งอันดับ 1 ของช่อง 3 เรื่องนี้เบลถ่ายพร้อมกับบุพเพสันนิวาสของพี่หน่อง ซึ่งได้มาออนปี 61 ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเบลเลย ที่เบลได้มาเป็นออเจ้าของทุกคน (ยิ้ม)”

เบลล่า เล่าต่อว่า “จากนั้นก็มี ปี่แก้วนางหงส์ กรงกรรม ร้อยเล่ห์มารยา ให้รักพิพากษา พรหมลิขิต และกำลังจะเปิดกล้อง เจ้าคุณพี่กับอีนางคำดวง หรือแม้แต่งานภาพยนตร์ เบลก็ไม่ได้เริ่มต้นที่บทนำเลย พอได้เป็นบทนำ เรื่องนั้นก็ไม่ได้ฉาย จนมาเป็นอีเรียมซิ่ง บุพเพสันนิวาส 2 ที่ทุกคนเห็นว่าประสบความสำเร็จ ที่เบลเท้าความมาทั้งหมด สิ่งที่เบลอยากจะบอกทุกคนก็คือ อาชีพของเบล ไม่ได้แตกต่างจากทุกคนเลย มันไม่ได้มีแต่ความสวยงาม มันมีทั้งความผิดหวัง ความพยายาม มีการฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่า มีคำดูถูก มีคำวิจารณ์ มีการอดทนรอ ซึ่งตั้งแต่ที่เบลได้เป็นเด็กฝึกช่อง 3 จนมาถึงวันที่บุพเพสันนิวาสออนแอร์ เบลใช้เวลา 8 ปี จากตั้งแต่วันแรกที่ได้มาเป็นอาชีพนักแสดง เบลใช้เวลากว่าจะมีวันนี้ เป็น เบลล่า ราณีคนนี้ เบลใช้เวลาทั้งหมด 14 ปี เบลไม่ต่างจากทุกๆ คนเลย คนเราไม่ได้สำเร็จตั้งแต่ก้าวแรก แต่บางทีมันอาจจะสำเร็จบนความพยายามครั้งที่ 100 ด้วยซ้ำ บางครั้งความพยายามอย่างเดียวยังไม่พอ ต้องมีโชคด้วย แต่เบลเชื่อว่าถ้าเราตั้งใจ ถ้าเรามุ่งมั่น และเราพร้อมอยู่เสมอ จุดเปลี่ยนในชีวิตเราที่เข้ามา เราจะพร้อมคว้ามันทันที อย่าให้คนอื่นมาบอกว่าเราทำไม่ได้ อย่าเอาคำดูถูก หรือการกลั่นแกล้งมาบั่นทอนจิตใจของเรา แต่ว่าคุณจงใช้พลังนั้นในการขับเคลื่อนตัวคุณ”

“แล้วถ้าวันไหนที่เราได้ลงสนาม จงวิ่งให้สุดกำลังเลยค่ะ ไม่ต้องไปแข่งขันกับใคร เราแค่ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ในสิ่งที่ไม่มีคนมองเห็น ความตั้งใจนั้นมันจะส่องแสงออกมา แล้วมันก็จะเป็นวันของคุณค่ะ เบลขอขอบคุณผู้ใหญ่ ผู้จัดทุกท่าน ขอบคุณที่ให้ม้าตัวนี้ได้ลงสนามแข่ง ได้โชว์ฝีมือความสามารถให้ทุกคนได้เห็น ทุกสิ่งทุกอย่างมันหล่อหลอมให้เบลเป็นเบลล่า ราณีในทุกวันนี้”

หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป งานนี้ทำเอาแฟนๆ ที่ติดตามเบลล่าต่างพากันแห่เข้ามาคอมเมนต์ชื่นชอบกันมากมาย อาทิ คู่ควรมากค่ะ, ขนาดคำพูดยังเตรียมตัวมา ต้องเป็นคนเป๊ะในการทำงานขนาดไหน น่ารัก, พูดดีมาก, รักแม่นายนะคะ คนสวย คนเก่งของเรา, รักเบล และเบลคู่ควรกับทุกสิ่งแล้วจริงๆ เป็นต้น

ขอขอบคุณเนื้อหาและภาพประกอบจาก มนุษย์ตุ๊ด, ployyyyy, bellacampen