เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ ที่วัดสวายจีก ต.สวายจีก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้มีพิธีฌาปนกิจศพ น้องเอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี นักศึกษาระดับ ปวส.ปี 2 ที่กระโดดน้ำเสียชีวิต เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยมีญาติพี่น้อง คณะอาจารย์ และเพื่อนนักศึกษามาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้าของเพื่อนในคณะเดียวกัน

ยายน้องเอ เล่าว่า พ่อแม่ของหลานแยกทางกัน ตนเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเล็ก ก่อนหน้านี้ประมาณ 7 ปี หลานป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ไปหาหมอและกินยามาโดยตลอด แต่ก่อนหน้านี้ไม่นาน หลานมาบอกว่าอยากตาย เพราะเครียดเรื่องกองทุนเรียน ส่วนตนไม่รู้ว่าทุนอะไร ขณะที่รุ่นพี่ในวิทยาลัย เล่าว่า น้องเป็นคนขยันตั้งใจเรียน เป็นคนร่าเริง แต่ระยะหลังมีอาการซึม ไม่คุยกับใคร จนกระทั่งมารู้ว่าป่วยเป็นโรคซึมเศร้า มักจะบ่นเสมอเรื่องการเรียนที่เรียนไม่ทันเพื่อน ประกอบกับปัญหาครอบครัวที่พ่อแม่แยกทางกัน พยายามจะให้คำปรึกษาแต่น้องไม่คุยด้วย

ด้านอาจารย์ที่ปรึกษา กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นน้องมีพฤติกรรมเรียบร้อยตั้งใจเรียนและเรียนดี จึงได้รับพิจารณาทุน กสศ. ช่วงแรกไม่ได้มีอะไร มาเรียนตามปกติ แต่ช่วงหลัง น้องไม่สามารถประคองตัวเองมาเรียนได้ เพราะป่วยเป็นโรคซึมเศร้าในขั้นรุนแรง หมอแนะนำให้อยู่กับผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด หลังๆ น้องไปเรียนไม่ได้เพราะนอนไม่หลับ นั่งเรียนในห้องไม่ได้ เนื่องจากฤทธิ์ยา จากนั้นคณะผู้บริหารโรงเรียนได้หาแนวทางช่วยเหลือ หลังจากน้องขอดร็อปการเรียน โดยจะช่วยประคองให้เรียนจบภาคเรียนก่อน ส่วนคณะอาจารย์ได้หาแนวทางช่วยเหลือ เพราะน้องเป็นเด็กทุน จะต้องประคองเกรดให้อยู่ในระดับ 3.0 ในช่วงที่ฝึกงาน ครูให้ฝึกงานในโรงเรียน เพื่อให้อยู่ในสายตาของอาจารย์

แต่ปรากฏว่าเกรดเทอมที่ผ่านมาได้ผลการเรียนเพียง 2.5 ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลที่น้องกังวล ซึ่งคณะครูไม่เคยแจ้งว่าจะตัดทุน แต่น้องรู้กฎระเบียบก่อนรับทุนแล้ว เพราะเกณฑ์การรับทุนเป็นระเบียบของกองทุนอยู่แล้ว คือเกรดเฉลี่ยต้องได้ 3.0 ขึ้นไป หรือถ้าออกกลางคัน เรียนไม่ผ่าน จะต้องคืนทุนตามกฎ ผอ.หรืออาจารย์ไม่มีสิทธิตัด น้องอาจจะวิตกกังวลที่เกรดตัวเองต่ำกว่าเกณฑ์ ประกอบกับอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้าระยะรุนแรง ซึ่งคณะอาจารย์ได้เตรียมการไว้แล้ว หากน้องเรียนไม่ได้จะทำเรื่องขอไม่ต้องคืนเงิน แต่ยังไม่ดำเนินการ น้องมาเสียชีวิตก่อน