จากกรณีคนร้ายใจโหดบุกเข้าบ้าน 2 ตายาย ในสวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่ 9 ต.พ่วงพรหมคร อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนใช้สายไฟพัดลมช็อตตามร่างกาย นายผ่อง (สงวนนามสกุล) อายุ 88 ปี เสียชีวิตคาบ้าน ขณะที่ นางเคลือบ (สงวนนามสกุล) ภรรยาวัย 87 ปี วิ่งหนีเอาตัวรอดออกมาได้ เหตุเกิดเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ติดตามเบาะแสคนร้ายด้วยตนเอง เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวบุคคลใกล้ชิดมาให้ปากคำอย่างละเอียด เบื้องต้นพบว่า มีปมปัญหาความขัดแย้งในครอบครัว และเชื่อว่าคนร้ายเป็นบุคคลเดียวกับผู้ที่ก่อเหตุฆ่า น.ส.สะอ้าน (สงวนนามสกุล) บุตรสาวของผู้ตาย เมื่อปี 2566 ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 28 พ.ค. พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ในการสอบสวนปากคำนางเคลือบ ภรรยาของผู้เสียชีวิต ให้การอ้างว่า คนร้ายไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นฝีมือของ นายประสิทธิ์ (สงวนนามสกลุ) อายุ 52 ปี บุตรชายของตนเอง โดยช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 22.00 น. ตนและสามีกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่บริเวณห้องโถงของบ้าน จู่ ๆ ไฟฟ้าก็ดับ หลังจากนั้นประมาณ 20 นาที มีคนร้ายเดินเข้ามาในบ้าน มีการสวมโม่งปิดบังใบหน้า ตรงเข้าทำร้ายร่างกายสามีทันที

ตนเห็นท่าไม่ดีจึงวิ่งหนีไปซ่อนใต้แคร่ไม้ไผ่บริเวณโรงเรือนที่ใกล้กัน หลังจากคนร้านฆ่าสามีตนแล้ว ยังพยายามตามหาตนนานกว่า 20 นาที ก่อนจะออกไปจากที่เกิดเหตุ สำหรับเหตุที่ตนไม่ให้การในตอนแรก ก็เพราะลูกชายนั่งอยู่ด้วย มีความรู้สึกหวาดกลัว หากต้องให้การต่อหน้าเจ้าหน้าที่ อีกทั้งก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์คนร้ายฆ่า น.ส.สะอ้าน บุตรสาว ตนและสามีก็ยังสงสัยว่า บุตรชาย น่าจะลงมือฆ่าพี่สาวตัวเอง เพียงแต่ไม่มีพยานหลักฐาน ภายหลังจึงได้นำกล้องวงจรปิดมาติดเอาไว้

ทั้งนี้ ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานของผู้ต้องสงสัย ยื่นศาลจังหวัดเวียงสระอนุมัติหมายจับที่ 131/2567 ลงวันที่ 27 พ.ค. 2567 ให้จับกุม นายประสิทธิ์ ในข้อหาฆ่าบุพการีโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, บุกรุกโดยมีอาวุธในเวลากลางคืน ก่อนบุกเข้าจับกุมตัวไว้ได้ในเวลาต่อมา โดย นายประสิทธิ์ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะที่ พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ได้สั่งกำชับให้ชุดสืบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เร่งหาพยานหลักฐาน เพื่อหาความเชื่อมโยงกับเหตุฆาตกรรม น.ส.สะอ้าน บุตรสาวของผู้ตายด้วย

สำหรับมูลเหตุของการฆาตกรรมนั้น ในเบื้องต้นตำรวจพบว่า มีปมเรื่องเกี่ยวกับทรัพย์สินและมรดก เพราะหลังจากการตายของ น.ส.สะอ้าน ผ่านไปแล้ว พ่อกับแม่ก็ยังไม่ยกทรัพย์สินมรดกใด ๆ ให้แก่ นายประสิทธิ์ ขณะที่ตัว นายประสิทธิ์ เองกลับมีปัญหาทางการเงิน จึงต้องการครอบครองที่ดินและบ้านของพ่อแม่ ทำให้เกิดความขัดแย้งในครอบครัวมาโดยตลอด สุดท้ายจึงวางแผนฆ่าพ่อกับแม่ตัวเอง โดยสร้างสถานการณ์ว่าเกิดจากอุบัติเหตุไฟช็อตดังกล่าว