นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้วางแผนส่งเสริมและผลักดันการส่งออกสินค้าที่เป็นกระแสหลักของโลก (เมกะเทรนด์) ในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งกระแสเรื่องสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์รีไซเคิล กระแสความต้องการสินค้าอาหารที่มีคุณภาพสูง อาหารฮาลาลสำหรับผู้บริโภคชาวมุสลิม และสินค้าที่มีแนวโน้มเติบโตสูงหลังจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากผลกระทบจากโควิด-19 

“กรมฯ ประเมินว่า สินค้าที่เป็นกระแสหลักของโลก และเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้น ได้แก่ สินค้าไลฟ์สไตล์ ที่พัฒนามาจากของเหลือใช้ เช่น ผลผลิตเหลือใช้ทางการเกษตร และขยะคุณภาพดีจากแหล่งอุตสาหกรรม ที่นำมาแปรรูปและออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่เชิงสร้างสรรค์ สินค้าในกลุ่มอาหารแปรรูป เกษตรแปรรูปที่มีบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยกรมฯ มีแผนส่งเสริมด้านการตลาด และสินค้าของไทยในต่างประเทศเพิ่มขึ้น” 

นายสมเด็จ กล่าวว่า ยังมีเทรนด์อาหารแห่งอนาคต 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ อาหารฟังก์ชั่น อาหารนวัตกรรมใหม่ อาหารทางการแพทย์ และอาหารอินทรีย์ที่ตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคในด้านต่าง อาทิ การเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย เพื่อโภชนาการเฉพาะบุคคล เพื่อสุขภาพจิตที่ดี อาหารที่ไม่ได้ทำมาจากเนื้อสัตว์ และอาหารผู้สูงอายุ เป็นต้น โดยมีตลาดส่งออกหลัก เช่น สหรัฐ จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ส่วนอาหารมังสวิรัติ มีตลาดเป้าหมาย คือ อินเดีย รวมถึงมีสินค้าฮาลาล จะเร่งผลักดันการ่สงออกสินค้าในกลุ่มอาหาร แฟชั่นและเครื่องนุ่งห่ม เครื่องสำอาง ไปยังกลุ่มประเทศมุสลิม ตลอดจนเร่งผลักดันการส่งออกสินค้าในกลุ่มสมุนไพร เครื่องสำอาง ที่มีแนวโน้มเติบโตดี   

“กรมฯ จะเน้นสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น ในช่วงที่ตลาดโลกฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด ได้แก่ ชิ้นส่วนอุปกรณ์และส่วนประกอบยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ วัสดุก่อสร้าง เครื่องจักรกลการเกษตร สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง และ ธุรกิจบริการมูลค่าสูง ได้แก่ ดิจิทัลคอนเทนต์ เช่น ภาพยนตร์ เกมส์ แอนิเมชั่นคาแรกเตอร์ และธุรกิจบริการเพื่อสุขภาพ”