เมื่อวันที่ 27 พ.ค. พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง. เปิดเผยกรณีกระแสข่าวการเริ่มมาตรการสกัดกั้นซิมผีบัญชีม้าในระบบการเงินออนไลน์ (mobile banking) ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค.เป็นต้นไป ว่า มาตรการดังกล่าวยังไม่ใช่การปิดกั้นไม่ให้เจ้าของบัญชีโอนเงินไปยังบัญชีอื่นทันที แต่เป็นการประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของบัญชีที่มีชื่อไม่ตรงกับหมายเลขโทรศัพท์ได้เตรียมที่จะเข้าชี้แจงข้อมูลกับทางธนาคารและผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ซึ่งก็จะเปิดให้เจ้าของบัญชีที่ได้รับข้อความแจ้งเตือนจากธนาคารเข้าชี้แจงข้อมูล และระหว่างนี้สำนักงาน ปปง. ร่วมกับธนาคาร จะทำการตรวจสอบเพื่อคัดกรองบัญชีที่มีการแจ้งข้อมูลแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 4 เดือน หรือจะแล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.นี้

27 พ.ค. ดีเดย์! ตรวจโมบายแบงก์กิ้ง “ชื่อไม่ตรงซิม” มีขั้นตอนอย่างไร? คนใช้ต้องทำอะไรบ้าง คลิก!

พล.ต.ต.เอกรักษ์ เผยอีกว่า หากเจ้าของบัญชียังไม่ดำเนินการให้แล้วเสร็จ ทาง ปปง. จะเพิ่มมาตรการสกัดกั้นการใช้บริการระบบการเงินออนไลน์ แต่ส่วนนี้ก็อาจจะหารือเพื่อพิจารณาขยายระยะเวลาเพิ่มในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ไปก่อน แต่ในกรณีที่หากเจ้าของบัญชีมีความจำเป็นที่ต้องใช้เบอร์โทรศัพท์ที่ไม่ตรงกับบัญชีทางธนาคาร และ ปปง. ก็มีข้อยกเว้นให้ใน 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มบุคคลในครอบครัว 2.กลุ่มคนที่ต้องดูแลตามคำสั่งศาล 3.ภาครัฐหรือบริษัทนิติบุคคลที่ส่งต่อเบอร์ให้พนักงานใช้ รวมถึงบุคคลที่สามารถอธิบายความจำเป็นว่าไม่สามารถเปลี่ยนชื่อและบัญชีให้ตรงกันได้ และทางธนาคารมองว่าไม่มีความเสี่ยงที่จะเข้าข่ายเป็นบัญชีม้า กรณีนี้ให้ผู้ที่เข้าหลักเกณฑ์ทั้ง 3 กลุ่ม ชี้แจงข้อมูลกับธนาคารซึ่งทางธนาคารก็จะใช้ดุลพินิจพิจารณาคัดกรองเพื่ออนุญาตอีกครั้ง

สำหรับสาเหตุที่ภาครัฐต้องดำเนินการลักษณะนี้ รองเลขาธิการ ปปง. เผยว่า เนื่องจากปัจจุบันพบว่ามีบัญชีธนาคารในระบบของประเทศไทยกว่า 106 ล้านบัญชี จำนวนนี้พบว่ามีบัญชีม้าถึงกว่า 30 ล้านบัญชี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี โดยประเทศไทยเป็นเพียงประเทศเดียวในโลกที่สามารถเปิดระบบการเงินออนไลน์โดยมีหมายเลขโทรศัพท์ไม่ตรงกับบัญชีธนาคารได้ จึงทำให้มิจฉาชีพมีช่องว่างหลอกลวงประชาชนและเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ได้ ซึ่งหากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ร่วมกับ ปปง. ดำเนินโครงการได้สำเร็จ เชื่อว่าจะสามารถปราบปรามเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ได้กว่าล้านบัญชี.