สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ว่า มาครงเข้าร่วมเทศกาลประชาธิปไตยในกรุงเบอร์ลิน เป็นอย่างแรก ซึ่งเขากล่าวเตือนถึงรูปแบบของความหลงใหลในระบอบเผด็จการ ที่เพิ่มขึ้นใน 2 ประเทศใหญ่ของสหภาพยุโรป (อียู) ได้แก่ ฝรั่งเศส และเยอรมนี

“พวกเราลืมบ่อยเกินไปว่า นี่คือการต่อสู้เพื่อปกป้องประชาธิปไตย เพราะถ้าพรรคฝ่ายชาตินิยมครองอำนาจในยุโรป ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประวัติศาสตร์คงจะไม่เหมือนเดิม” มาครง กล่าวโดยชี้ถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิด-19 หรือปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน

ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส (ซ้าย) จับมือกับประธานาธิบดีฟรังก์-วอลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ ผู้นำเยอรมนี (ขวา) หลังการแถลงข่าวร่วมที่ทำเนียบประธานาธิบดีเยอรมนี ในกรุงเบอร์ลิน

ด้านประธานาธิบดีฟรังก์-วอลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ ผู้นำเยอรมนี กล่าวว่า พันธมิตรฝ่ายประชาธิปไตยในยุโรปคือสิ่งจำเป็น ซึ่งมาครง ชี้ให้เห็นว่า สถานการณ์ในปัจจุบันก่อนการเลือกตั้งในยุโรป แตกต่างจากการเลือกตั้งครั้งก่อนหน้า และมีหลายอย่างเกิดขึ้น

นอกจากนี้ มาครงยังเน้นย้ำคำเตือนของเขา และเรียกร้องให้ชาวยุโรป ลงคะแนนเสียงให้พรรคการเมืองที่ฝรั่งเศสสนับสนุน และพรรคการเมืองที่ปกป้องยุโรป ขณะที่ ชไตน์ไมเออร์ กล่าวถึงภัยคุกคามจากรัสเซีย

อนึ่ง การเดินทางเยือนดังกล่าวมีขึ้น 2 สัปดาห์ ก่อนการเลือกตั้งรัฐสภายุโรป แต่ผลการสำรวจบ่งชี้ว่า มันอาจเป็นความอับอายครั้งใหญ่สำหรับมาครง เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาลของเขา มีคะแนนตามหลังพรรคฝ่ายขวาจัด เช่นเดียวกับพรรคร่วมรัฐบาลเยอรมนีของนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ที่มีคะแนนตามหลังพรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี (เอเอฟดี) แม้อีกฝ่ายเผชิญกับเรื่องอื้อฉาวหลายครั้งก็ตาม.

เครดิตภาพ : AFP