นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ซึ่งมีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นประธาน มีมติให้ รฟท. นำเรื่องการปรับกรอบวงเงินโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน และสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง (Missing Link) กลับไปทบทวนรายละเอียดเพิ่มเติม โดยเฉพาะการย้ายตำแหน่งสถานีราชวิถี จากเดิมอยู่ฝั่งบ้านราชวิถี มาอยู่ฝั่งโรงพยาบาลรามาธิบดี จะเป็นปัญหา หรือส่งผลกระทบต่อโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) เชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) หรือไม่ เพราะพื้นที่ทั้ง 2 โครงการอยู่ใกล้กัน ทั้งนี้ให้ รฟท. เสนอบอร์ด รฟท. อีกครั้งในเดือน มิ.ย. 67
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/05/thumbnail_IMG_7445.jpg)
นายอนันต์ กล่าวต่อว่า สำหรับการปรับแบบย้ายตำแหน่งสถานีราชวิถีนั้น ได้มีการย้ายตำแหน่งสถานี จากเดิมอยู่ฝั่งบ้านราชวิถี ก็ขยับลงไปทางด้านทิศใต้ และเปลี่ยนมาอยู่ฝั่งโรงพยาบาลรามาธิบดี ให้ใกล้โรงพยาบาลรามาธิบดีมากขึ้น โดยเป็นสถานีใต้ดิน และมีทางเดินลอยฟ้า (สกายวอล์ก) จากสถานีเชื่อมเช้าสู่อาคารของโรงพยาบาล เพื่อให้ผู้โดยสารเดินทางเชื่อมต่อได้อย่างสะดวกสบาย ส่งผลให้กรอบวงเงินโครงการเพิ่มขึ้นกว่า 400 ล้านบาท จากวงเงินเดิมที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อปี 59 ประมาณ 4.41 หมื่นล้านบาท โดยที่ประชุมขอทราบหลักการเหตุผลของการย้ายตำแหน่งสถานีที่ชัดเจนอีกครั้ง รวมทั้งการเจรจากับเอกชน เพราะที่นำเสนอมาข้อมูลยังไม่ครบถ้วน
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/05/thumbnail_IMG_7443.jpg)
นายอนันต์ กล่าวอีกว่า รฟท. ต้องตอบให้ชัดเจนว่าย้ายสถานีแล้วเกิดประโยชน์อย่างไร และมีผลกระทบกับโครงการรถไฟไฮสปีดเชื่อมสามสนามบินหรือไม่ หากเจรจากับเอกชนผู้รับสัมปทานแล้วควรมีเอกสารยืนยันที่ชัดเจน ซึ่งแม้ว่า รฟท. จะนำเสนอว่าหารือกับเอกชน และยืนยันพื้นที่ก่อสร้างกันแล้ว แต่ก็ต้องมีเอกสารยืนยันให้ชัดเจนว่าไม่กระทบใคร เพราะไม่อยากให้อนุมัติแล้วมีปัญหาตามมาภายหลัง ที่ประชุมจึงยังไม่อนุมัติ ต้องการทำให้เรื่องนี้ชัดเจนที่สุดก่อน เพราะกังวลว่าจะกระทบกับโครงการรถไฟไฮสปีดเชื่อมสามสนามบิน อย่างไรก็ตามปัจจุบัน Missing Link ยังเป็นโครงการที่ รฟท. อยู่ระหว่างดำเนินการ ยังไม่ได้มีข้อสรุปว่าจะยกเลิกดำเนินโครงการ Missing Link แต่อย่างใด
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/05/thumbnail_IMG_7442.jpg)
ผู้สื่อข่าวถามว่า บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด (กลุ่มซีพี) ผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟไฮสปีดเชื่อมสามสนามบิน จะกังวลเรื่องเส้นทางทับซ้อน และปัญหาการแย่งผู้โดยสารกับ Missing Link หรือไม่ เพราะเส้นทางเดินรถทั้ง 2 โครงการมีเส้นทางบางส่วนอยู่ในแนวเดียวกัน นายอนันต์ กล่าวว่า ไม่น่ามีปัญหา เพราะแม้จะแนวเส้นทางเดียวกันคู่ขนานกันไป แต่รถไฟไฮสปีดเชื่อมสามสนามบินไม่มีสถานีจอดที่สถานีราชวิถี โดยรถไฟไฮสปีดฯ เมื่อมาจากอู่ตะเภา จะมาจอดที่สถานีพญาไท และมุ่งหน้าไปสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์เป็นสถานีถัดไป ดังนั้นผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟไฮสปีดฯ และต้องการมายังสถานีราชวิถี หรือบริเวณโรงพยาบางรามาธิบดี ต้องลงต่อรถไฟฟ้าสายสีแดงที่สถานีพญาไท ทั้งนี้สายสีแดงแบ่งเป็น 2 สายคือ สีแดงอ่อน (East-West) ช่วงศาลายา ตลิ่งชัน บางซื่อ และหัวหมาก และสีแดงเข้ม (North-South) ช่วงรังสิต บางซื่อ และหัวลำโพง
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/05/8DEE8F7993B6476799D9554B0B702CF5F8CF0C1F.jpeg)
ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับโครงการ Missing Link ระยะทาง 25.9 กม. ที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติการก่อสร้างฯ วงเงิน 44,157.76 ล้านบาท ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 59 ปัจจุบันผ่านมาเกือบ 8 ปีแล้ว ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่ชัดเจน รฟท. ยังอยู่ระหว่างปรับแบบก่อสร้าง และย้ายตำแหน่งสถานีใหม่ ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงจำนวน และรูปแบบโครงสร้างสถานี และต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment : EIA) ใหม่ ล่าสุดกรมการขนส่งทางราง (ขร.) จึงไม่ได้นำเส้นทางดังกล่าว บรรจุในแผนพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (พื้นที่ต่อเนื่อง) ระยะที่ 2 (M-MAP 2) แต่หากในอนาคตโครงการนี้ชัดเจน ขร. ก็จะนำมาบรรจุใน M-MAP 2 และเสนอกระทรวงคมนาคม พิจารณาเสนอต่อคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ต่อไป.