เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ร.ต.อ.ประภาส สมศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุรถบรรทุกหกล้อเฉี่ยวชนรถ จยย.มีผู้เสียชีวิต ทรัพย์สินเสียหาย บริเวณสี่แยกไฟแดง (สี่แยกหูล่อง) ก่อนขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำปากพนัง ถนนนคร-ปากพนัง หมู่ที่ 2 ต.หูล่อง อ.ปากพนัง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สิชา พูลวงษ์ ผกก.สภ.ปากพนัง พ.ต.ท.บุญเชต กัลปหา รอง ผกก.สอบสวน พญ.นภัสกร อรุณสวัสดิ์ แพทย์ รพ.ปากพนัง และหน่วยกู้ภัยประชาร่วมใจเขตปากพนัง รีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณสี่แยกไฟแดง พบร่างผู้เสียชีวิตนอนอยู่ที่พื้นถนน ทราบชื่อ นายเดโช หวามา อายุ 55 ปี ที่อยู่ 10/2 หมู่ที่ 3 ต.หูล่อง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช และ น.ส.สมจิตร พรมนุ้ย อายุ 62 ปี อาศัยอยู่ที่เดียวกัน ทั้งสองศพมีบาดแผลฉกรรจ์ตามร่างกาย ใกล้กันมีชิ้นส่วนของรถจักรยานยนต์ตกกระจายที่พื้นถนน ส่วนบังโคลนท้ายติดป้ายทะเบียน บนจ-456 กทม. ตกอยู่ และพบรอยครูดที่พื้นถนนตรงกลางทางร่วมทางแยกเป็นทางยาวไปทางสะพานข้ามแม่น้ำปากพนังประมาณ 300 เมตร จนไปถึงจุดจอดรถบรรทุกหกล้อ ยี่ห้อ ฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 70-2764 นครศรีธรรมราช ซึ่งจอดอยู่ทางขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำ มีร่องงรอยการชนด้านหน้าของรถบรรทุก และพบซากรถ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ติดอยู่ใต้ท้องรถบรรทุก

ส่วนคนขับรถยนต์บรรทุกได้แสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อนายสุชีพ อารี อายุ 39 ปี ที่อยู่ 60/3 หมู่ที่ 6 ต.โมคลาน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช โดยให้การว่า ตนขับรถบรรทุกหกล้อ มาตามถนนนคร-ปากพนัง จากทิศตะวันตกมุ่งหน้าเพื่อข้ามสะพานข้ามแม่น้ำปากพนังไปทิศตะวันออก มาจนถึงสี่แยกสัญญาณไฟ ซึ่งในขณะนั้นเปิดสัญญาณไฟกระพริบเหลือง จึงได้เฉี่ยวชนเข้ากับรถจยย.กลางสี่แยกพอดี โดยรถบรรทุกได้ลากครูดศพผู้เสียชีวิต 2 คน และซากรถ จยย. ไปเป็นระยะทางยาว 300 เมตร

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ถ่ายภาพที่เกิดเหตุ จัดทำแผนที่เกิดเหตุ และบันทึกการตรวจสถานที่เกิดเหตุไว้อย่างละเอียด เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย ส่วนศพได้นำส่ง รพ.ปากพนัง และมอบให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญการกุศลตามประเพณีต่อไป.