สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ว่า เทศบาลกรุงปารีส ลงมติให้ขึ้นราคาค่าเข้าชมหอไอเฟลสำหรับผู้ใหญ่อีกร้อยละ 20 ตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2567 เพื่อช่วยจ่ายค่าซ่อมแซมเร่งด่วน

ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวต้องจ่ายค่าเข้าชมที่ 29.40 ยูโร (ราว 1,168 บาท) สำหรับการโดยสารลิฟต์ไปยังยอดหอไอเฟล แต่ตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. 2567 เป็นต้นไป ราคาจะถูกปรับขึ้นเป็น 35.30 ยูโร (ราว 1,402 บาท) เพื่อสนับสนุนเงินทุนให้กับผู้ให้บริการหอไอเฟล และลดค่าธรรมเนียมค่าดำเนินการรายปี เนื่องจากผู้ดูแลหอไอเฟลต้องประสบปัญหาขาดดุลงบประมาณ หลังจำนวนผู้เยี่ยมชมลดลงในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 และค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

เมื่อต้นปี 2567 พนักงานหอไอเฟลประท้วงหยุดงาน เพื่อเรียกร้องต่อการลงทุนที่ไม่เพียงพอ หลังหอไอเฟลขาดแคลนเงินประมาณ 120 ล้านยูโร (ราว 4,772 ล้านบาท) ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระหว่างปี 2563-2564 โดยสหภาพแรงงานระบุว่า การเพิ่มทุนครั้งก่อนจำนวน 60 ล้านยูโร (ราว 2,386 ล้านบาท) ยังไม่เพียงพอ เนื่องจากต้องมีงานบำรุงรักษาหลักและการทาสีใหม่

หนึ่งในผลงานสถาปัตยกรรมเอกของโลก ซึ่งออกแบบโดยนายกุสตาฟ ไอเฟล สถาปนิกชาวฝรั่งเศส ได้รับการทาสีใหม่ 19 ครั้ง นับตั้งแต่ถูกสร้างขึ้นสำหรับงานเวิลด์แฟร์ เมื่อปี 2432 โดยต้องทำการทาสีทุก 7 ปี เพื่อป้องกันสนิมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม หอไอเฟลไม่ได้รับการทาสีใหม่ ตั้งแต่ปี 2553

ขณะที่จำนวนผู้มาเยือนหอไอเฟล ฟื้นตัวเป็นเกือบ 6 ล้านคน เมื่อปี 2566 จากที่เคยลดลงเหลือ 1.5 ล้านคน เมื่อปี 2563 เนื่องจากการแพร่ระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19.

เครดิตภาพ : AFP