เมื่อวันที่ 25 พ.ค. นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการสมัคร สว. ว่าได้รับรายงานอย่างไม่เป็นทางการเบื้องต้นจากกรมการปกครองว่า นับตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. ที่เปิดรับสมัครวันแรก จนถึงวันที่ 24 พ.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในการรับสมัคร 1. มีผู้มาสมัครทั้งสิ้นจำนวน 48,226 คน 2. มีผู้มาสมัคร มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม โดยตรวจเบื้องต้นในวันที่สมัครและมีเอกสารครบ จึงรับสมัครไว้ก่อน จำนวน 48,117 คน ซึ่ง ผอ.การเลือกระดับอำเภอ จะได้ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามโดยละเอียดอีกครั้งว่าจะประกาศเป็นผู้สมัครหรือไม่ ภายใน 5 วัน นับจากวันสิ้นสุดวันรับสมัคร 3. มีผู้สมัครที่ตรวจเบื้องต้น ณ ที่รับสมัครแล้วไม่มีคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้าม จึงไม่รับสมัครไว้ จำนวน 109 คน

4. มีหลายอำเภอไม่มีผู้สมัครครบทุกกลุ่ม เบื้องต้นมี 2 อำเภอไม่มีผู้มาสมัครเลย และมีอำเภอที่สมัครเพียงกลุ่มเดียวอีก 7 อำเภอ ซึ่งการที่มีกรณีบางอำเภอ สมัครเพียงกลุ่มเดียว หรือไม่มีผู้สมัครเลย หรือสมัครไม่ครบทุกกลุ่ม ไม่กระทบการเลือกตามไทมไลน์แต่อย่างใด เพราะกฎหมายได้เขียนร้องรับใว้แล้วในมาตร 19 และมาตรา 40 ว่า “การเลือกระดับอำเภอให้กระทำได้ แม้จะไม่มีผู้สมัครครบทุกกลุ่ม กลุ่มใดไม่มีผู้สมัคร ให้งดการดำเนินการให้มีการเลือกในกลุ่มนั้น และไม่มีผลกระทบต่อการเลือกในกลุ่มอื่น และในเขตอำเภอใดมีผู้สมัครไม่เกิน 5 กลุ่ม ไม่ต้องจัดไห้มีการแบ่งสาย…”

นายแสวง กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สำนักงาน กกต. ได้อำนวยความสะดวกให้สามารถติดตามรายชื่อผู้สมัครเป็น สว. ระดับอำเภอ ผู้ได้รับเลือกในระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ ผ่านแอปพลิเคชันสมาร์ตโหวต (Smart Vote) ได้ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้สมัครอาจจะน้อยกว่าที่ประมาณการไว้ อาจเนื่องจากกำหนดคุณสมบัติไว้สูง หาคนรับรองไม่มี การจัดตั้งเป็นหมู่ เป็นคณะ บริหารจัดการได้ยาก เพราะระบบออกแบบป้องกันไว้ทั้งการจัดตั้งและการฮั้วในระดับหนึ่ง รวมทั้งขาดแรงจูงใจในการสมัครที่ระบบการเลือกมีความซับซ้อนหลายชั้น ซึ่งจำนวนผู้สมัครประมาณนี้ น่าจะเอื้อให้การบริหารจัดการในการเลือก และการควบคุมทำให้การเลือกเป็นไปได้ด้วยความเรียบร้อย

เลขาฯ กกต. กล่าวต่อว่า ส่วนมาตรการในการจัดการฮั้ว กกต. ก็ได้เฝ้าระวัง ติดตาม ทุกความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด โดยประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลว่า มีการฮั้วผ่านแอปพลิเคชันตาสับปะรด หรือสมาร์ตโหวตได้ ซึ่งทาง กกต. อาจส่งพนักงานไปขอบันทึกข้อมูลจากผู้แจ้งอีกทางหนึ่งด้วย เพื่อให้การเลือกเป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม 

“ทั้งนี้ ขอเรียนเพิ่มเติมว่า กรณีศาลปกครองกลางมีคำพิพากษา เรื่องระเบียบ กกต. ว่าด้วยการแนะนำตัวผู้สมัครเป็น สว. นั้น ทาง กกต. ได้ตรวจสอบคำพิพากษาและกฎหมายเบื้องต้นแล้ว ระเบียบ กกต. ดังกล่าว ยังมีผลบังคับใช้อยู่ ตามมาตรา 70 ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง ที่กำหนดว่า ในกรณีคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ให้รอการปฏิบัติตามคำบังคับจนกว่าจะพ้นระยะเวลาการอุทธรณ์ หรือในกรณีที่มีการอุทธรณ์ให้รอการบังคับคดีไว้ จนกว่าคดีจะถึงที่สุด เรื่องนี้เราไม่ได้นิ่งนอนใจ ในช่วงวันหยุดจะได้ประมวลเรื่องและความเห็นเสนอ กกต. ในวันที่ 27-28 พ.ค. นี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจน เป็นแนวทางกับผู้สมัครและสื่อมวลชนโดยเร็วต่อไป“ นายแสวง กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยอดผู้สมัครรับเลือก สว. 2567 ตั้งแต่วันที่ 20-24 พ.ค.2567 รวม 5 วัน มีผู้สมัครที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น รวม 48,117 คน แบ่งเป็น วันแรก มีผู้สมัคร 4,642 คน  วันที่สอง มีผู้สมัคร 6,607 คน  วันที่สาม มีผู้สมัคร 9,434 คน วันที่สี่ มีผู้สมัคร 13,486 คน วันที่ห้า มีผู้สมัคร 13,948 คน  

โดยจังหวัดที่มีผู้สมัครมากที่สุด 1.ศรีสะเกษ 2,764 คน 2.กทม. 2,489 คน 3.เชียงใหม่ 2,000 คน 4.บุรีรัมย์ 1,836  คน 5.นครศรีธรรมราช 1,798 คน ส่วนจังหวัดที่มีผู้สมัครน้อยที่สุด คือ 1.น่าน 98 คน 2.ตาก 102  คน 3.สมุทรสงคราม 128 คน 4.พังงา 134 คน 5.อุตรดิตถ์ และนครพนม จังหวัดละ 150 คน.