เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ร.ต.อ.จตุพร สอนวิทย์ รอง สว.สอบสวน สภ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งรถเก๋งเสียหลักตกลงไปภายในคลองภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หมู่ 4 ต.ห่อหมก อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้เสียชีวิต จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานแพทย์โรงพยาบาลบางไทร อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นคลอง อยู่ภายในหมู่บ้าน มีประชาชน พลเมืองดีได้ช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในรถออกมาจากรถ 2 ราย ทราบชื่อ นายสว่าง ฐานีพานิจสกุล อายุ 85 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร เป็นคนขับ นางปานจิต ฐานีพานิจสกุล อายุ 81 ปี ภรรยา นั่งอยู่บริเวณเบาะหลัง เจ้าหน้าที่พยายามทำซีพีอาร์เพื่อช่วยชีวิต ไม่สามารถช่วยเหลือได้ทันเสียชีวิตทั้งคู่ ส่วนลูกสาวซึ่งนั่งรถมาด้วย และอยู่ในเหตุการณ์ด้วยยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ ตรวจสอบบริเวณที่จอดรถ ริมคลองพบร่องรอยของรถเก๋งเสียหลักพุ่งตกลงไปในคลอง นักประดาน้ำดำน้ำลงไปผูกสลิงแล้วดึงรถขึ้นมาจากน้ำ พบเป็นรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า สีบรอนซ์ ทะเบียน กฮ 5276 ปทุมธานี ตรวจสอบไม่พบร่องรอยการถูกเฉี่ยวชน

สอบถาม นายวิเชียร ถิ่นทัพไทย เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ทราบว่า ได้รับแจ้งมีรถเก๋งตกลงไปในน้ำ มีผู้ติดอยู่ภายในรถ จึงได้รีบนำกำลังมาที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงพบว่ารถจมอยู่ภายในน้ำ โดยประชาชนพลเมืองดีได้ช่วยกันนำร่างผู้ที่ติดอยู่ในรถออกมาได้แล้วหนึ่งราย อีกรายอยู่ภายในรถจึงได้รีบลงไปช่วยเหลือนำขึ้นมาพยายามทำซีพีอาร์ แต่ไม่เป็นผลเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ร.ต.อ.จตุพร กล่าวว่า จากการสอบถามลูกสาวของผู้เสียชีวิต ซึ่งเดินทางมาด้วยกันจากกรุงเทพมหานครเพื่อมาพักผ่อน ที่บ้านพักที่เกิดเหตุ ที่ได้ซื้อไว้ให้พ่อแม่เป็นที่พัก เมื่อมาถึงหน้าบ้าน ลูกสาวได้ลงจากรถเพื่อไปเปิดประตูบ้านให้พ่อ ซึ่งเป็นคนขับ ทันทีที่เปิดประตูบ้านเสร็จ รถซึ่งจะต้องขับขึ้นเนินแล้วเข้าถึงโรงจอดรถ จังหวะนั้นรถได้พุ่งตกลงไปในคลองทันที ซึ่งมีแม่นั่งอยู่ในรถด้วย ลูกสาวจึงได้กระโดดน้ำลงไปพยายามที่จะช่วยพ่อและแม่ออกมาจากรถแต่ไม่สามารถช่วยได้ จึงได้วิ่งไปขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้านและคนที่ใกล้เคียงให้มาช่วยเหลือ แต่พ่อแม่เสียชีวิตก่อน

ทั้งนี้ ได้ทำการตรวจสอบร่องรอยการเกิดอุบัติเหตุบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน สอบสวนพยานในเบื้องต้น และได้ส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จ.ปทุมธานี อย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบศพให้ทางครอบครัวรับไปดำเนินการตามประเพณีต่อไป.