นายปริเขต สืบสหการ ผู้อำนวยการทัวร์นาเม้นท์เจ็ตสกีโลก WGP#1 เปิดเผยว่า ต้องถือว่าความสำเร็จของกีฬาเจ็ตสกีไทยนั้นมาไกลเกินฝันอีกครั้ง การที่ทัวร์นาเมนต์เจ็ตสกีโลก WGP#1 สามารถเติบโตในปี 2567 โรดโชว์ไป 4 เมืองทั่วโลก สร้างโอกาสที่ดีขึ้นอีกมาก ล่าสุด เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เห็นความสำเร็จที่มีนักกีฬาถึง 17 ชาติ สมัครแข่งชิงแชมป์เอเชีย 2024 เมืองโอซากา จึงอยากขอเจรจาในการเป็นเจ้าภาพต่อในปีหน้า 2568 โดยทราบว่าต้องการจัดงานให้ยิ่งใหญ่ขึ้นอีก และจะเข้าร่วมมืออย่างเต็มที่
นอกจากนี้ เกาหลีใต้ กับ อินโดนีเซีย ก็ติดต่อขอสิทธิจัดทัวร์นาเมนต์ WGP#1 เช่นกัน และยังขยายตัวไปถึงกลุ่มตะวันออกกลาง, กลุ่มประเทศยุโรป หรือแม้แต่ในมลรัฐอื่นๆ ของสหรัฐอเมริกา ก็ติดต่อเข้ามาเพื่อขอแย่งสิทธิจัดการแข่งขันของเมืองเลคฮาวาซู แอริโซนา แสดงถึงความสำเร็จของอิทธิพลความสร้างสรรค์กีฬา (ซอฟต์พาวเวอร์) ที่แผ่ขยายไปทั่วโลกอย่างกว้างขวางแล้ว
ทางด้านนโยบายของ WGP#1 คือความภาคภูมิใจที่ได้นำธงไตรรงค์ ในฐานะประเทศเจ้าของลิขสิทธิ์การแข่งขันและผู้บริหารกีฬาโลก ขึ้นแสดงอย่างมีเกียรติ สง่างาม ร่วมกับประเทศเจ้าภาพ ยังนับเป็นผลดีของซอฟต์พาวเวอร์กีฬา ที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ดีระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนกรณีที่ภาครัฐต้องการเข้ามาส่งเสริมกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อประเทศไทย เช่น กีฬามวยไทย ด้านการท่องเที่ยว หรืออาหารไทย ฯลฯ ไปจัดแสดง WGP#1 ก็มีความยินดี เพราะในทัวร์นาเมนต์แต่ละที่ในต่างประเทศ จะมีผู้เข้าร่วมงานรวมกว่า 8,000 คน ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์มาก ยังมีสื่อโทรทัศน์ออกอากาศเผยแพร่ไป 120 ชาติด้วย
“เชื่อว่าการโรดโชว์ 4 สนามในปีนี้ กำลังจะแสดงศักยภาพเชิงภาพลักษณ์ที่สำคัญและสร้างชื่อเสียงอย่างมาก ให้กับประเทศไทย โดยบนบกนั้น โลกมีการแข่งขันกีฬาความเร็วที่ยิ่งใหญ่ คือฟอร์มูล่าวัน และโมโตจีพี ที่ปัจจุบันเจ้าของคือ สหรัฐอเมริกา ส่วนบนพื้นน้ำ ต่อจากนี้ ผู้บริหารกีฬาความเร็วอันดับ 1 ของโลกคือประเทศไทย”
นายปริเขต กล่าวต่อว่า แม้ว่าตลาดของกีฬาทางน้ำยังเล็กกว่ามาก แต่การชี้วัดด้วยตัวเลขผู้ชมที่คาดว่าจะเข้าเป้าหมายกว่า 250 ล้านคนต่อปี ในปีนี้ก็นับว่าสูงมากที่สุดของกีฬาบนพื้นน้ำ และก็จะสร้างประโยชน์ได้อีกหลายด้าน เช่น เสนอภาพของการท่องเที่ยวที่สวยงามของไทยและอาหารไทย ฯลฯ ที่สำคัญที่สุดอีกด้านคือ การนำเข้าและสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจให้ชาติไทย โดยทัวร์นาเมนต์ที่ไทย มีเป้าหมายนำเข้าทีมนานาชาติที่ 4,000-5,000 คน เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายเรือแข่ง อุปกรณ์ต่างๆ การมาอยู่ไทยเฉลี่ย 14 วันต่อคน จะสร้างเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเฉลี่ยกว่า 200,000 บาท/คน หรือกว่า 800 ล้านบาท เฉพาะทีมนักกีฬา นี่คือซอฟต์พาวเวอร์ที่สร้างประโยชน์อย่างชัดเจน.