เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจสอบกุฏิเก่าภายในวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ และไฟได้คลอก 3 เด็กวัดเสียชีวิต โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้น โดยมีการเก็บหลักฐานการพิสูจน์ในครั้งนี้จำนวนหลายอย่าง ต้องใช้เวลาราว 2 อาทิตย์ถึงจะทราบผล โดยในวันนี้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักพุทธนนทบุรี เจ้าหน้าที่ พม. เดินทางมาตรวจสอบหาข้อมูลหลักฐานที่วัดสวนแก้วด้วย

สลดไฟไหม้กุฏิวัดสวนแก้ว ไฟคลอกเด็กวัดวัย 9-11 ขวบ นอนกอดกันดับ 3 ศพ!

เวลาต่อมา พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนจำนวนมากที่มารอทำข่าว พร้อมกล่าวว่า ไฟไหม้กุฏิวัดครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นและเกิดไฟไหม้ตรงกับวันวิสาขบูชาพอดี เป็นเรื่องบังเอิญมากๆ ที่อาตมาเทศน์เสร็จก็ไปเวียนเทียน เสร็จเรียบร้อยก็แยกย้ายกัน เด็ก 5 คนคงคิดว่าไม่มีผู้ใหญ่อยู่ดูแล้ว จึงไปหยอกเล่นกันในกุฏิ แต่เด็กอีก 2 คนบอกง่วงเลยออกจากกุฏิขึ้นไปนอน ไม่งั้นอาจจะเป็น 5 ศพก็เป็นได้ ไม่เคยนึกเลยว่าจะเกิดไฟไหม้ขึ้น นี่ครั้งแรก เป็นเหตุสุดวิสัย และเศร้าสลด เด็กที่อยู่รุ่นแรกๆ อยู่กันเป็น 100 คน มากกว่านี้เยอะ แต่ตอนนี้เหลือน้อยมาก ตอนที่อยู่กันเป็น 100 คน ไม่เคยเกิดไฟไหม้เลย มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ

“วัดสวนแก้ว มีนโยบายเป้าหมายทุนการศึกษาเด็กรับเด็กที่ไม่มีญาติหรือไม่มีกำลังที่จะส่งลูกหลานเรียนเอามาฝาก อาตมาเสียดายเด็กมาก เพราะเพิ่งตัดชุดให้ทั้ง 2 คน มาเรียนได้ 2 วันหยุดเรียนวันวิสาขบูชา เขาก็เสียชีวิต โดยปกติแล้วทางวัดได้ตั้งงบสนับสนุนทุนการศึกษาเด็ก ปีละ 3-4 ล้านบาท เด็กเพิ่งกลับไปได้ 8 วัน และมารอบใหม่ 280 คน มานอนอยู่ที่พักที่ทางวัดจัดให้ก็ไม่เคยเกิดไฟไหม้ ซึ่งเด็กมารวมอยู่ที่นี่ไม่ต่ำกว่า 3-4 พันคน เพราะค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ใช้เงินจากมูลนิธิวัดสวนแก้วทั้งนั้น ไม่มีอะไรแอบแฝงกับเด็ก เหตุการณ์ที่เกิดครั้งนี้ถือเป็นความเลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นในวัดสวนแก้ว” พระพยอม กล่าว