ด้วยกลิ่นอายความสยองโหดของเรื่อง “ขบวนแห่”หนึ่งในสามเรื่องหลอนขั้นสุดของ “เทอม 3”ภาพยนตร์สยองขวัญน่าจับตาที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับขบวนแห่โบราณจัดเต็มแบบล้านนา งานนี้จะเป็นใครมากำกับและสร้างสรรค์ถ้าไม่ใช่ทีมโปรดักชันชาวเหนือของแทร่อ
ย่าง “สตูดิโอ คำม่วน” ของ “มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล” ที่ครั้งนี้ขอรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ควบคุมความเข้มข้นของเนื้อหนัง
โดยส่งไม้ต่อการกำกับให้แก่ผู้กำกับลูกหม้อในสำนักอย่าง นัทสอ-สรวิชญ์ เมืองแก้ว และ ตู้-อัศฎา ลิขิตบุญมา สองผู้กำกับเจเนอเรชันใหม่ที่มีผลงานกำกับร่วมกันมาแล้วหลายครั้งจนพร้อมได้เวลาออกสู่สนามใหญ่ที่ท้าทายมากยิ่งขึ้นกับการกำกับภาพยนตร์แนวสยองขวัญเป็นครั้งแรก ซึ่งมะเดี่ยวก็การันตีว่าทั้งสองคนจะแท็กทีมสร้างผลงานให้ดียิ่งขึ้น โดยผสมผสานแนวคิดและความถนัดในการทำงานของทั้งคู่ด้วยเนื้อหาที่จะมอบทั้งสาระ ความบันเทิง และจัดเต็มความสยองได้อย่างลงตัวบวกกับการร่วมงานกับนักแสดงเจนเดียวกันอย่าง “ตาต้า-ชาติชาย ชินศรี” และ “อุ้ม-อิษยา ฮอสุวรรณ” รวมถึงทีมงานเบื้องหลังวัยเดียวกันได้อย่างเข้าขาทำให้มั่นใจได้เลยว่าเรื่องนี้จะนำเสนอมุมมองความหลอนอันแปลกใหม่ที่จะทำให้ผู้ชมได้รับความสนุกสุดสยองได้อย่างแน่นอน

“ผู้กำกับ ‘ตู้’ กับ ‘นัทสอ’ เป็นน้องๆ ใน ‘สตูดิโอ คำม่วน’ อยู่แล้ว เป็นลูกหม้อมาตั้งแต่ฝึกงาน เขาก็จะเป็นเด็กรุ่นเจนวาย (Gen Y) เจนซี (Gen Z)ที่มีความสามารถหลากหลาย พวกเขาเคยทำ MV ทำหนังสั้น ทำหนังโรแมนติกมาก่อน แต่หนังผีเป็นแนวที่ท้าทายพวกเขาและผู้กำกับอีกหลายๆคนด้วย ก็ถือว่าเป็นแนวที่ยังน่าสนใจอยู่ในตลาดของคนดูหนัง งานนี้เลยน่าจะเป็นเหมือนใบเบิกทางที่ดีสำหรับเขาได้ น้องๆรุ่นนี้จะค่อนข้างรีเสิร์ชเก่ง เวลาที่พวกเขาตั้งต้นศึกษาว่าควรจะทำอะไรแบบไหนเขาก็จะเริ่มเรียนรู้จัดการไปรีเสิร์ชอะไรมา กระตือรือร้นที่จะหาข้อมูลต่างๆอย่าง ‘ตู้’ จะมาทางสายโปรดักชัน เริ่มมาจากการเป็นผู้ช่วยผู้กำกับมาก่อนเขาก็จะรู้เฟรม รู้จักวิธีการที่จะบล็อกกิ้ง หรือวิธีการต่อช็อต การคิดช็อตต่อเนื่องไป วิธีการเล่าเรื่องด้วยภาพ เพราะเขาทำงานกับตากล้องมาเยอะ ส่วน ‘นัทสอ’
ก็จะมาทางสายเขียนบทกับการแสดง ดังนั้นพวกงานแก้บท เขียนบท เขาจะละเอียด สามารถทำให้ตัวละครมีมิติ มีเหตุมีผลและสามารถบรีฟนักแสดงในเรื่องอารมณ์ความรู้สึกและสถานการณ์ของเรื่องได้เรียกว่าฟังก์ชันของทั้งสองคนมีความเกื้อหนุนกัน ถนัดกันตรง ไหนก็ซัปพอร์ตกันในสิ่งนั้น ก็อยากจะให้พวกเขาได้มีผลงานร่วมกันอีก เป็นผู้กำกับคู่ขวัญกันไป ส่วนเราก็จะคอยไกด์ คอยเป็นที่ปรึกษาว่าทำแบบนี้มันเวิร์กทำอีกอย่างมันอาจจะไม่เวิร์ก แต่ก็ปล่อยให้เขาได้มีวิธีคิดในหมู่เขาเพราะทั้งนักแสดง ผู้กำกับ ทีมงาน เขาเป็นคนเจนเดียวกันแล้วเขาก็ดูเข้าขากันมากฉะนั้นเขาก็จะมีลายเซ็นของพวกเขามาตั้งแต่บรรยากาศในกองแล้วมันมีแต่ความสนุกสนาน พวกเขาไม่ค่อยมีความกดดันเท่าไหร่ งานมันก็จะได้รสชาติออกมาอีกแบบหนึ่งและหนังไทยมันขาดมุมมองจากผู้กำกับใหม่ๆ
เราก็จะให้สะท้อนความคิดของตัวเองออกมา พอเขามีความตั้งใจ เราก็จะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่าง ก็เชื่อว่าคนดูก็น่าจะได้ลายเซ็นอะไรใหม่ๆ จากภาพยนตร์เรื่องนี้ ทุกพิธีกรรมนำมาซึ่งตำนานเทอม 3 เข้าโรงภาพยนตร์ 30 พฤษภาคมนี้”

แฟนๆสามารถติดตามข่าวสารรอบโลกได้แล้ววันนี้ที่ www.dailynews.co.th และทุกแพลตฟอร์มของ Dailynews