เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาผักสด ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองอุทัยธานี ริมแม่น้ำสะแกกรัง อ.เมือง จ.อุทัยธานี พบว่าตอนนี้ราคาผักสดยังคงมีราคาปรับขึ้นมาหลายรายการ โดยเฉพาะ พริกขี้หนูสวน ที่ราคายังคงแพงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง สูงถึงกิโลกรัมละ 600 บาท จากเพียงแค่ 16 วัน จากวันที่ 6 พ.ค. ที่เคยลงสำรวจตลาดไปครั้งที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 500 บาท โดยยังพบว่าบางอำเภอนั้น มีราคาที่สูงมากกว่านี้ อย่างเช่นที่อำเภอบ้านไร่ ที่ราคาพริกขี้หนูสวนตอนนี้พุ่งสูงไปถึงกิโลกรัมละ 800 บาท

แล้งเป็นเหตุ! พริกแพงจัดพุ่ง กก. ละ 500 บาท แม่ค้าบ่นอุบ ไม่คิดพริกจะแพงกว่าเนื้อหมูสด

นางสายชล สุขพงษ์ แม่ค้าแผงผัก เปิดเผยว่า ราคาพริกขี้หนูสวนตอนนี้ปรับราคาขึ้นมาอีกแล้ว จากเดิมกิโลกรัมละ 500 บาท ตอนนี้พุ่งมาเป็นราคากิโลกรัมละ 600 บาท ซึ่งขึ้นมาประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว ซึ่งแต่ละวันนั้น แต่ละร้านจะได้พริกกันมาน้อยมาก บางวันได้กันแค่ 1 กิโลกรัมก็มี โดยชาวสวนพริกที่ปลูกแล้วนำมาขายส่งให้แม่ค้า บอกว่าสาเหตุนั้นเป็นเพราะเจอกับปัญหาแล้ง ทำให้ต้นพริกที่ปลูกไว้นั้นออกน้อย จึงไม่ทันต่อความต้องการของตลาด ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่พริกขี้หนูสวนเท่านั้นที่มีการปรับขึ้นราคา โดยมะเขือเจ้าพระยา จากกิโลกรัมละ 30 บาท ขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 60 บาทแล้ว

ขณะที่แม่ค้าแผงผักรายอื่นๆ ต่างก็เปิดเผยว่า ราคาพืชผักในตลาดตอนนี้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงแค่พริกขี้หนูสวนเท่านั้น โดยเฉพาะมะเขือเทศที่ราคาพุ่งจากกิโลกรัมละ 40 บาท เป็น 80 บาท และคาดว่าจะขึ้นไปถึง 100 บาท เนื่องจากผลผลิตมะเขือเทศในช่วงนี้มีน้อย ส่วนพริกขี้หนูสวนและพริกเมล็ดใหญ่ก็ปรับราคาขึ้นเช่นกัน จากกิโลกรัมละ 50 บาท เป็น 100 บาท แม่ค้าในตลาดระบุว่า เป็นเรื่องปกติในช่วงหน้าแล้งที่ราคาผักจะสูงขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศ แต่หลังจากฝนเริ่มตก ราคาก็จะลดลง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยอื่นที่ทำให้ราคาผักสูงขึ้นก็คือราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าขนส่งผักในตลาดปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย