ที่วัดไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พระครูโกศลสิกขกิจ เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ) เจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา พร้อมด้วย นายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ นายประหยัด ถิลา วัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ นางฐพัชร์รดา ธนินท์จิรานนท์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดศรีสะเกษ และคณะให้การต้อนรับ ดร.ซก ซกกรัดทะยา (Dr. Sok Sokrethya) ที่ปรึกษาส่วนตัวของสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรี ผู้แทนรัฐบาลและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงท่องเที่ยวแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ร่วมกับ นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำวุฒิสภา ลงพื้นที่สำรวจแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย เพื่อเตรียมเปิดโครงการ 1 วีซ่า เที่ยว 2 ประเทศ

นายสำรวย ได้นำ ดร.ซก ซกกรัดทะยา และคณะ ได้ขึ้นมณฑปกราบนมัสการสรีระสังขารร่างหลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา เกจิดังที่พุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและกัมพูชาให้ความเคารพศรัทธา จากนั้นได้ร่วมกันประกอบพิธีประเพณีแซนโฎนตา เซ่นไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว เพื่อขอพรให้เป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว พร้อมตรวจเยี่ยมที่ด่านถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ และเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวผาพญากูปรี ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ รวมทั้งบริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ อีกด้วย

จากนั้น ดร.ซก ซกกรัดทะยา ได้เดินทางเข้าพบ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ เพื่อหารือข้อราชการ เกี่ยวกับความร่วมมือในการพัฒนาเครือข่ายการท่องเที่ยวตามแนวชายแดน การเชื่อมโยงการค้า และการแลกเปลี่ยนสินค้าพืชผลทางการเกษตร และสินค้า SME ครบวงจร การพัฒนาความร่วมมือ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไทย-กัมพูชา การเชื่อมโยงและการบูรณาการร่วมกัน ในด้านการศึกษา การสาธารณสุขและการพยาบาล และการกีฬา การส่งเสริมและพัฒนาตลาดการค้าตามแนวชายแดน และการคมนาคม รวมทั้งติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ตามแนวพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา

ดร.ซก ซกกรัดทะยา กล่าวว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ เพื่อสำรวจแหล่งท่องเที่ยว จ.ศรีสะเกษ และจะร่วมกับ จ.ศรีสะเกษ ในการวางแผนเปิดหนึ่งวิซ่าเที่ยวสองประเทศ เพื่อให้นักท่องเที่ยวจากประเทศไทยและประเทศกัมพูชา ได้สามารถเดินทางไปมาเที่ยวชมและกราบนมัสการขอพรสรีระสังขารหลวงปู่สรวง จุดชมวิวผาพญากูปรี ผามออีแดง จุดชมวิวผาตามอก เขาพระวิหาร ปราสาทนครวัด นครธม และเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวทั้งประเทศไทยและประเทศกัมพูชา ได้สะดวกยิ่งขึ้น

ขณะนี้ประเทศกัมพูชาได้เปิดประเทศแล้ว สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด ดีขึ้นแล้ว ทั้งประเทศมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันเพียง 100 กว่ารายเท่านั้น เนื่องจากประชาชนทั้งประเทศได้รับการฉีดวัคซีนแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ และอยู่ระหว่างการดำเนินการฉีดวัคซีนบูสเตอร์เข็มที่ 3 นอกจากนี้ ประเทศกัมพูชายังได้เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่เด็กอายุ 6-12 ปี และเด็ก 3 ขวบ อีกด้วย.