นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งการให้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ 27 พ.ค.นี้ เพื่อร่วมหารือถึงแนวทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่สภาพัฒน์ประกาศจีดีพีไตรมาสแรก ขยายตัวได้เพียง 1.5% ซึ่งอยู่ในระดับชะลอตัว โดยเป็นผลจากภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่ชะลอตัว และประเด็นปัญหาดังกล่าว กระทรวงการคลังมองว่าควรได้รับการกระตุ้น

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่ทราบถึงรายละเอียดวาระในการประชุม แต่ในฐานะที่ตนกำกับดูแลหน่วยงานการจัดเก็บรายได้ หรือ 3 กรมจัดเก็บภาษี ได้แก่ กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร ได้เตรียมที่จะมอบหมายการดำเนินงาน โดยเฉพาะเรื่องของการจัดเก็บรายได้ที่จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพ การขยายฐานภาษี โดยยอมรับว่า ขณะนี้การจัดเก็บรายได้ในภาพรวมของรัฐบาลยังถือว่า ต่ำกว่าเป้าหมาย แต่ต่ำกว่าเพียงเล็กน้อย ก็เชื่อว่า ตลอดทั้งปีงบประมาณรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมาย

“ตัวเลขการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลนั้น ยอมรับว่า ต่ำกว่าเป้าหมาย แต่ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย ไม่น่าเป็นห่วงมาก เชื่อว่า ตลอดทั้งปีงบประมาณ การจัดเก็บรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมาย โดยสาเหตุที่การจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากนโยบายการคลังของรัฐบาลที่ได้ออกมาตรการมาดูแลประชาชน ซึ่งกระทบต่อการจัดเก็บรายได้”


นายพิชัย ชุณหวชิร รมว.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้เศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตได้ตามศักยภาพ โดยตัวเลขของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ ซึ่งมีการขยายตัวได้ 1.5% เห็นได้ว่าเศรษฐกิจของเราเติบโตต่ำที่สุดในอาเซียน ซึ่งเรื่องนี้จึงเป็นเหตุจำเป็นให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น และในระยะต่อไป จะเป็นการทำงานเพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจและการดึงการลงทุนเข้ามาต่อไป