“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย เจองานไม่หนักนัก เมื่อเทียบกับอีกกลุ่ม ในศึกฟุตบอลอาเซียนคัพ 2024 ซึ่งจับสลากช่วงบ่ายวันที่ 21 พ.ค. 67 ที่ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม

สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน หรือ เอเอฟเอฟ จัดพิธีจับสลาก แบ่งกลุ่มการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2024 “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริคคัพ 2024” โดย สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ส่ง มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอน เข้าร่วมพิธีจับสลาก โดยทีมชาติไทย เป็นทีมวางโถ 1 เช่นเดียวกับ เวียดนาม

ผลการแบ่งกลุ่ม มีดังนี้

กลุ่ม A ไทย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, กัมพูชา, ผู้ชนะรอบคัดเลือก (ติมอร์ เลสเต หรือ บรูไน)
กลุ่ม B เวียดนาม, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เมียนมา, ลาว

การแข่งขันยังจัดรูปแบบเดิม รอบแบ่งกลุ่ม แต่ละทีมจะเตะแบบเหย้า 2 นัด และเยือน 2 นัด หาทีมอันดับ 1-2 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ก่อนไปสู่รอบชิงชนะเลิศ ที่เตะเหย้า-เยือน เช่นกัน การแข่งขันมีระหว่างวันที่ 23 พ.ย.-21 ธ.ค. 67

สำหรับศึกรายการนี้ ทีมชาติไทย เป็นแชมป์ 2 สมัยหลังสุด และเป็นทีมที่คว้าแชมป์มาครองได้มากที่สุด 7 สมัย ในปี 1996, 2000, 2002, 2014, 2016, 2020, 2022 ซึ่งหากไทยได้แชมป์หนนี้ จะเป็นครั้งแรกที่มีทีมคว้าแชมป์ 3 สมัยซ้อน (ไทย กับ สิงคโปร์ เคยได้แชมป์ 2 สมัยซ้อน)

มาซาทาดะ อิชิอิ กล่าวว่า สำหรับกลุ่มที่ออกมานั้น ทั้งสิงคโปร์ หรือ มาเลเซีย มีโค้ชที่รู้จักกันดี ฉะนั้นน่าจะเป็นเกมรอบแรกที่สนุก ด้วยความที่ไทยเป็นแชมป์เก่า และแชมป์ที่มากที่สุด ทำให้ได้รับความสนใจค่อนข้างมาก ก็จะพยายามเล่นให้ดี เล่นแบบแฟร์เพลย์ และเล่นในสไตล์ของทีมชาติไทย จะพยายามอยู่ในการแข่งขันให้ได้นานที่สุด เล่นออกมาให้ดีที่สุด เพราะว่าเป็นรายการที่สำคัญที่สุดในปีนี้รายการหนึ่ง

กุนซือซามูไร กล่าวต่อไปว่า ตอนนี้ยังไม่กดดันเท่าไหร่ เพราะจะโฟกัสกับเกมคัดบอลโลกที่จะมาถึงก่อน เพื่อให้ผ่านเข้ารอบต่อไป แล้วเมื่อใกล้แข่งขันค่อยมาคิดถึงทัวร์นาเมนต์นี้อีกครั้ง