นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (5 ต.ค.64) พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ และสะพานชำรุด จำนวน 13 จังหวัด 30 สายทาง รวม 55 แห่ง การจราจรผ่านได้ 34 แห่ง ผ่านไม่ได้ 21 แห่ง ดังนี้ 1.จ.ขอนแก่น (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล.2 ท่าพระ-ขอนแก่น (จุดกลับรถใต้สะพานบ้านกุดกว้าง) ระดับน้ำสูง 150 ซม. 2.นนทบุรี (ผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) ทล.302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 16+950 ระดับน้ำสูง 30-35 ซม. ใช้จุดกลับรถต่างระดับบางใหญ่ที่ กม.18+500 แทน และ ทล. 302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 17+000 ระดับน้ำสูง 30-35 ซม. ใช้จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางไผ่ที่ กม.16+600 แทน
3.สระบุรี (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล.3020 พระพุทธบาท-หนองโดน ช่วง กม.7+301 (คอสะพานหนองโดนถูกน้ำกัดเซาะชำรุด ผ่านไม่ได้ปิดใช้สะพานทั้งสองฝั่ง 4.อ่างทอง (ผ่านไม่ได้ 6 แห่ง) ทล.33 นาคู-ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 36+000-36+200 (จุดกลับรถใต้สะพานฝั่งป่าโมก) ระดับน้ำสูง 40 ซม., ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.33+200 จุดกลับรถใต้ท่อ Box Cul.(วัดค่าย) ระดับน้ำสูง 60 ซม., ทล.32 อ่างทอง-ไชโย กม.57+500 (จุดกลับรถบางศาลา) ระดับน้ำสูง 40 ซม., ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 32+607 (จุดกลับรถคลองกะท่อ) ระดับน้ำสูง 150 ซม. เส้นหลักผ่านได้จุดกลับรถผ่านไม่ได้, ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 39+843 (จุดกลับรถวัดดอกไม้) ระดับน้ำสูง 50-55 ซม. เส้นหลักผ่านได้จุดกลับรถผ่านไม่ได้ และ ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 43+719 (จุดกลับรถหลวงปู่ทวด) ระดับน้ำสูง 25 ซม. เส้นหลักผ่านได้จุดกลับรถผ่านไม่ได้
5.ลพบุรี (ผ่านไม่ได้ 3 แห่ง) ทล.1 แยกโรงพยาบาลอานันทมหิดล-โคกสำโรง ช่วง กม.ที่ 168+228-169+328 ระดับน้ำสูง 50 ซม. ทางเลี่ยง จ.ลพบุรี เลี้ยวที่ กม.170 เข้าวัดหนองคู, ทล. 3019 สามแยกโคกกระเทียม-สถานีรถไฟโคกกระเทียม ช่วง กม.ที่ 1+750-1+825 ระดับน้ำสูง 50 ซม. ทางเลี่ยงใช้ทางท้องถิ่นแทน และ ทล.3024 บ้านหมี่-เขาช่องลม ช่วง กม.ที่ 5+600-กม.7+300 ระดับน้ำสูง 150 ซม. ทางเลี่ยงใช้ทางท้องถิ่นแทน 6.กำแพงเพชร (ผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) ทล. 1 โนนปอแดง-ปากดง ช่วง กม.ที่ 419+036 (จุดกลับรถคลองพะยอม) ระดับน้ำสูง 40 ซม. และ ทล. 1 โนนปอแดง-ปากดง ช่วง กม.ที่ 432+030 (จุดกลับรถคลองสุวรรณ) ระดับน้ำสูง 20 ซม.
7.พระนครศรีอยุธยา (ผ่านไม่ได้ 3 แห่ง) ทล. 347 บางกระสั้น-บางปะหัน ช่วง กม.ที่ 40+860 (จุดกลับรถใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา) ระดับน้ำสูง 45 ซม., ทล.3263 อยุธยา-ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 10+940 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 165 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน และ ทล.3263 อยุธยา-ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 11+100 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 165 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน 8.สุพรรณบุรี (ผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) ทล.33 สุพรรณบุรี-นาคู ช่วง กม.ที่ 9+886 (สะพานคลองทับน้ำ) ระดับน้ำสูง 55 ซม. และ ทล.340 สาลี-สุพรรณบุรี กม.ที่ 59+674 (สะพานศาลเจ้าแม่ทับทิม) ระดับน้ำสูง 100 ซม. และ 9.นครสวรรค์ (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล.1 บ้านหว้า-วังไผ่ ช่วง กม.ที่ 339+600 ใต้สะพานเดชาติวงศ์ ระดับน้ำสูง 100 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน
ทั้งนี้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม มีความห่วงใยต่อประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม จึงได้กำชับหน่วยงานในสังกัดให้เร่งช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเต็มกำลัง พร้อมทั้งให้ติดตามเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยตลอด 24 ชม. เพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยและทันท่วงที และให้รายงานผลการดำเนินงานมายังกระทรวงฯ รับทราบทุกวันและประชาสัมพันธ์การดำเนินการไปยังสื่อมวลชนและประชาชนให้รับทราบด้วย
ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้เตรียมพร้อมเครื่องมือ เครื่องจักร สะพานเบลีย์ และจัดเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับประชาชนตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อีกทั้งช่วงนี้ยังอยู่ในฤดูฝนจึงกำชับหน่วยงานในพื้นที่ให้เตรียมพร้อมและเฝ้าระวังเป็นพิเศษ กรณีน้ำท่วมสูงได้ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทาง หลักนำทาง ไฟกะพริบ จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร เร่งสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่ วางแท่งแบริเออร์ เรียงกระสอบทราย และกำแพงดินเพื่อชะลอน้ำ กรณีถนนหรือสะพานขาด/ชำรุด ได้เร่งติดตั้งสะพานเบลีย์เชื่อมทาง และกรณีดินไหล่เขาข้างทางสไลด์ได้นำเครื่องจักรเขาเกลี่ยดินออกเพื่อให้ประชาชนสัญจรได้สะดวก
นอกจากนี้ยังได้ตั้งจุดให้บริการประชาชน จัดรถโมบายเซอร์วิสช่วยเหลือประชาชนกรณีรถเสียบนทางหลวง ช่วยขนย้ายประชาชนและสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัย จัดรถบรรทุกไว้บริการรับส่งประชาชนในพื้นที่ประสบภัย แจกจ่ายอาหารเครื่องอุปโภคบริโภค และช่วยล้างทำความสะอาดเก็บกวาดบ้านเรือนเพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ให้ประชาชนในพื้นที่น้ำลดน้ำ และได้กำชับหน่วยงานในสังกัดกรณีเกิดภัยพิบัติให้ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย และสนับสนุนเครื่องมือเครื่องจักร ยานพาหนะ กรณีมีการร้องขอจากหน่วยงานอื่นๆ หรือประชาชน
ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางหลวงเดินทางด้วยความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงเส้นทางที่คาดว่าจะเกิดความสุ่มเสี่ยง พร้อมขอให้ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจรต้องการความช่วยเหลือติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฯ ฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.) และติดตามรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1