เมื่อวันที่ 20 พ.ค. พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีรถแบ๊กโฮ และแทรคเตอร์ล้อยาง ได้เข้าขุดปรับพื้นที่บนภูทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ และมีการขนวัสดุเหล็กต่างๆ เตรียมก่อสร้างบริเวณที่ตั้งเดิมร้านอาหารและรีสอร์ทชื่อดัง ที่เคยถูกเจ้าหน้าที่จับกุมรื้อถอนไปนานหลายปีแล้ว

ซึ่งจากการตรวจสอบตำแหน่งพิกัดตามที่ได้รับแจ้งพบว่า เป็นพื้นที่เดียวกันกับที่เคยถูกเจ้าหน้าที่จับกุมรื้อถอนไปนานหลายปีแล้ว ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. 59 โดยขณะนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ อธิบดีกรมป่าไม้ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ และ กอ.รมน. ได้สนธิกำลังทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ ทหาร กอ.รมน. และ อส. จำนวนกว่า 500 นาย เพื่อเปิดปฏิบัติการรื้อถอน 19 รีสอร์ท ที่ถูกคำสั่งให้รื้อถอนหลังครบกำหนดเวลา 7 วัน แต่เจ้าของหรือผู้ประกอบการรีสอร์ท ซึ่งเหลือเพียง 16 ราย ยังดื้อแพ่งไม่ยอมรื้อถอน

และตอนนี้ได้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมป่าไม้ สจป.4 สาขาพิษณุโลก กอ.รมน.จังหวัด และ พ.ช. เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยด่วนที่สุด

สำหรับการบุกรุกสร้างรีสอร์ทบนภูทับเบิก เป็นการบุกรุกใหม่ หลังปี 2559 เกือบทั้งหมด โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา พ.อ.พงษ์เพชร เคยแจ้งให้ ผอ.สจป.4 สาขาพิษณุโลก ทราบแล้วว่ามีรีสอร์ทเพิ่มขึ้นรวมมากกว่า 500 แห่ง ซึ่งทางฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ต่างทราบดี เนื่องจากก่อนหน้านี้ในขณะที่ขึ้นไปจับกุมรีสอร์ทที่บริเวณผาหัวสิงห์ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายมองเห็นชัดเจน และประสานให้ดำเนินการ แต่เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบพื้นที่ทุกฝ่าย ไม่ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจหน้าที่ ทั้งที่เครื่องมือที่สำคัญ คือ คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 35/2559 เรื่อง มาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินป่าภูทับเบิก ในท้องที่ตําบลวังบาล และตําบลบ้านเนิน อําเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ยังมีผลใช้บังคับอยู่ นอกจากนี้ พ.อ.พงษ์เพชร ยังได้รับเรื่องร้องเรียนว่า เจ้าหน้าที่ในพื้นที่มีการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการในพื้นที่ดังกล่าวอีกด้วย.