ทีมข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ส่วนกลาง ยังคงเกาะติดปัญหา 8 โปรเจกต์ใหญ่ 545 ล้านบาท ที่ จ.กาฬสินธุ์ ก่อสร้างไม่เสร็จถูกประฌาม “ก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร” สร้างความเสื่อมเสียให้กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย เจ้าของงบประมาณ แม้จะยกเลิกสัญญา แจ้งเป็นผู้รับเหมาทิ้งงาน ขึ้นแบล็กลิสต์ กับ หจก.เฮงนำกิจ และ หจก.ประชาพัฒน์ หรือ 2 หจก.ขาใหญ่ ไปแล้ว 6 โครงการในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมไปแล้ว และเตรียมที่จะยกเลิกอีก 2 โครงการเร็วๆ นี้ แต่ หจก.เฮงนำกิจ ยังสามารถประมูลงานกับ กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม โครงการบูรณะและซ่อมแซมถนน 2 สาย งบประมาณรวมกว่า 34 ล้านบาท ที่ จ.กาฬสินธุ์ สร้างความผวาเติมทุกข์ให้กับประชาชนมีการตั้งข้อสังเกตถึงเครือข่ายขาใหญ่ ว่าเส้นจะใหญ่จริงเพราะจนถึงขณะนี้ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ก็ยังไม่พิจารณาประกาศขึ้นแบล็กลิสต์เพื่อระงับยับยั้งความเสียหายในครั้นนี้ ขณะเดียวกันด้าน คณะกรรมาธิการ ปปช.สภาผู้แทนฯ เตรียมนำปัญหานี้ขึ้นโต๊ะพิจารณา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ทีมข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ส่วนกลาง ที่ฝังตัวในพื้นที่รายงานปฏิกริยาของชาวบ้านผู้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากการก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร ยังพากันจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ต่อความพยามในการตรวจสอบของเครือข่ายภาคประชาสังคม ป.ป.ท.เขต 4 ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ และชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบและได้รับความเดือดร้อน ที่เริ่มมีการนำคลังสมองที่เป็นข้าราชการบำนาญในสายอาชีพต่างๆ ออกมาวางแนวทางในการเดินหน้าเพื่อสะสางปัญหา 7 ชั่วโคตรให้หมดไป กับการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับ 2 หจก.ขาใหญ่ ทั้ง หจก.เฮงนำกิจ และ หจก.ประชาพัฒน์ ว่าทำไมเมื่อกรมโยธาธิการและผังเมืองขึ้นแบล็กลิสต์ไปแล้ว ทำไม กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ที่ผู้ต้องพิจารณาต่อและส่งเรื่องไปให้ ปลัดกระทรวงการคลังถึงดำเนินการล่าช้าจนทำให้ หจก.เฮงนำกิจ ผู้รับเหมาทิ้งงาน ไปประมูลงานได้อีก

นายดำรงศักดิ์ สง่าวงศ์ ข้าราชการบำนาญ ผู้ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อน 7 ชั่วโคตร กล่าวว่า การที่ หจก.เฮงนำกิจ ไปได้งานบูรณะ-ซ่อมแซม ถนน 2 สาย งานของกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคมในจ.กาฬสินธุ์ ครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติโดยเฉพาะวิธีปฏิบัติตามระเบียบพัสดุปี 2560 ระเบียบวางหลักไว้ว่า การที่บุคคลหรือนิติบุคล ได้ถูกหน่วยงานรัฐแจ้งเวียนเป็นผู้ทิ้งงานนั้น หน่วยงานของรัฐต้องยกเลิกสัญญา หรือยกเลิกการเป็นผู้ชนะ หรือยกเลิกการเสนอราคากับผู้รับจ้างรายนั้น เว้นแต่มีเหตุผลในการก่อให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่งต่อหน่วยงานรัฐ กรณีนี้จึงต้องการให้กรมทางหลวง พิจารณายกเลิกการทำสัญญากับ หจก.เฮงนำกิจ เพื่อประโยชน์ของทางราชการ เพราะชัดแจ้งว่า กรมโยธาฯ ขึ้นแบล็กลิสต์ตามระเบียบก็ถือว่ามีความผูกพันกันทำไมถึงจะดำเนินการไม่ได้ การยกเลิกสัญญา 7 ชั่วโคตร กับ 2 ขาใหญ่ ก็ไม่มีใครไปกลั่นแกล้ง แต่ 2 ขาใหญ่ ไม่ทำงานแถมยังเบิกเงินไปกว่า 250 ล้านบาท ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงที่หากมีการสมคบคิดที่จะโกงงบประมาณแผ่นดิน

“ตนขอเรียกร้องเพราะถึงเวลาแล้วที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายพิชัย ชุณหวชิร รมว.คลัง เข้ามาตรวจสอบปัญหานี้ในพื้นที่ขอให้ทำการระงับยับยั้ง ยุติปัญหา ล้มโครงการของ หจก.เฮงนำกิจ ที่กำลังจะเซ็นสัญญาเร็วๆ นี้ เพราะชาวบ้านไม่เชื่อมั่นว่าจะทำงานได้จริง หลักการพิจารณาจึงขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจ เพราะแม้แต่งาน 7 ชั่วโคตร 8 โครงการยังไม่มีปัญญาทำงานเลย แล้วเรื่องอะไรหากจะไม่ทำงานอีกแล้วมีการเบิกเงินงวดงานแล้วทิ้งงานไปอีก ก็จะทำให้จ.กาฬสินธุ์ อดที่จะพัฒนาบ้านเมืองของตนเอง”

ด้าน นายชาญยุทธ โคตะนนท์ ประธานคณะทำงานเครือข่ายภาคประชาสังคม ในการต่อต้านการทุจริต ปปท.เขต 4 ประจำ จ.กาฬสินธุ์ และที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการ คณะ กธจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปัญหาความล่าช้าของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ที่ยังไม่พิจารณาประกาศเวียนห้างกับ 2 ขาใหญ่ เชื่อว่ามีการวิ่งเต้น เพราะในการตรวจสอบเครือข่ายยังไปพบความเชื่อมโยงไปถึงบุคคลผู้มีบารมีเป็นอดีตเคยทำงานในสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง ทำให้ข้าราชการที่เคยเป็นลูกน้องไม่กล้าที่จะนำข้อเท็จจริงขึ้นมา เพื่อยุติปัญหา แต่ทางเครือข่ายฯ ก็จะทำหน้าที่ตรวจสอบติดตามอย่างเต็มที่ต่อไป ก็ต้องทำให้รู้ว่าความยุติธรรมและความถูกต้องในสังคมไทยจะมีจริงหรือไม่ หรือผู้มีอำนาจในรัฐบาลจะปล่อยให้ปัญหาที่กระทบต่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

“การตรวจสอบติดตามยังคงเกิดขึ้น โดยในจันทร์วันที่ 20 พฤษภาคม 2567 ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 12 นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล ประธานกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ จะร่วมกับ คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่สอดส่อง โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลัก เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมชุมชนเมืองกาฬสินธุ์ หรือ โครงการ 7 ชั่วโคตร อีกครั้งที่การลงพื้นที่ในครั้งนี้ก็จะมีการสะท้อนปัญหาโดยชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบที่จะมีการนำปัญหาไปแก้ไขต่อไป” นายชาญยุทธ กล่าวในที่สุด

ทีมข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ส่วนกลาง แจ้งว่า สำหรับงานก่อสร้าง 2 โครงการของกรมทางหลวงที่ จ.กาฬสินธุ์ ที่ชาวบ้านรับทราบข้อมูลจากประกาศฯ ซึ่งมี หจก.เฮงนำกิจ เป็น 1 ใน 2 บริษัทรับเหมาที่กรมโยธาฯ ประกาศยกเลิกสัญญา ที่ชาวบ้านประจานเป็นโครงการก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร ชนะการประมูลงานของกรมทางหลวงได้นั้น เบื้องต้นทางกรมหลวงจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบพัสดุ แม้ทราบว่าเป็น หจก.ที่กรมโยธาฯ ประกาศยกเลิกงานไปหลายโครงการฯ เพราะเป็นผู้ชนะการประมูลงานทั้ง 2 โครงการ ประเด็นสำคัญอยู่ที่กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ยังไม่ได้แจ้งเวียนให้เป็นผู้ทิ้งงาน ทางกรมทางหลวง จึงจะต้องเรียกมาลงนามในสัญญาฯ ตามระเบียบพัสดุฯ ทั้งนี้หากหจก.ดังกล่าว มาลงนามในสัญญาฯ และมีหนังสือเวียนจากกรมบัญชีกลาง ทางกรมหลวง ก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะสามารถทำงานได้หรือไม่ ปัญหาจึงขึ้นอยู่กับ กรมบัญชีกลาง และปลัดกระทรวงการคลังที่จะหยุดปัญหานี้ต่อไป