เมื่อวันที่ 19 พ.ค. จากกรณีเหตุเกิดพื้นที่ ต.ท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา นายแดเนียล ซิโฮมบิง รองกงสุลสถานกงสุลสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำจังหวัดสงขลา มาพบพนักงานสอบสวนแจ้งว่า ด้วยเมื่อวันที่ 11 พ.ค.67 เวลาประมาณ 13.00 น. สถานกงสุลฯ อินโดนีเซีย จังหวัดสงขลา ได้รับการประสานงานจาสถานทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ว่า Mr.SYAWANA (ชาวานา) อายุ 29 ปี สัญชาติ อินโดนีเซีย ถูกชายไทยไม่ทราบจำนวนมารับ Mr.SYAWANA (ชาวานา) ในพื้นที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และพามายังพื้นที่อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง โดยได้ถูกกลุ่มชายไทยซ้อมทรมานแล้วได้มีการอัดคลิปวิดีโอ ส่งไปยังน้องสาว Mr.SYAWANA (ชาวานา) ประเทศอินโดนีเซีย พร้อมเรียกค่าไถ่เป็นเงินไทยจำนวน 2,300,000 บาท โดยทางญาติของ Mr.SYAWANA (ชาวานา) ได้โอนเงินมาแล้วบางส่วนจำนวน 800,000 บาท.

ขณะที่ ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.ณฐกรญ์ กาญจนาภรณ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้เรียกประชุมลับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง ชุดสืบสวนสบสวน และชุดพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าเพื่อคลี่คลายคดี จากกรณีสถานทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ว่า Mr.SYAWANA (ชาวานา) อายุ 29 ปี สัญชาติ อินโดนีเซีย ถูกชายไทยไม่ทราบจำนวนมารับในพื้นที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และพามายังพื้นที่อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง โดยได้ถูกกลุ่มชายไทยซ้อมทรมานแล้วได้มีการอัดคลิปวิดีโอ โดยเฉพาะการสอบปากคำของ นายวีระศักดิ์ ผู้ต้องหาคนสำคัญ ที่เป็นสมุนของ (เสี่ยแป้ง นาโหนด) ที่ยังให้รายละเอียดผู้อยู่เบื้องหลังการอุ้มลักพาตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่หมด

ล่าสุดศาลจังหวัดพัทลุงได้อนุมัติหมายจับผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเป็น ดาบตำรวจหญิง สังกัด ตำรวจภูธรภาค 9 โดยหลังศาลอนุมัติหมายจับเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัวได้ขณะขับรถเก๋งกลับจากกทม. ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองพัทลุง โดยเจ้าหน้าที่นำตัวสอบสวน ก่อนนำตัวไปฝากขังศาลในเวลาเดียวกัน พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพัทลุง เข้าตรวจหาดีเอ็นเอภายในรถเพื่อหาความเชื่อมโยง ซึ่งก่อนที่ศาลอนุมัติหมายจับนั้น ผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่จับตัวได้ในวันเกิดเหตุ นายวีรศักดิ์ หรือ ปาน ได้ให้การชัดทอดว่า มีตำรวจหญิงคนดังกล่าวขับรถนำผู้เสียหายชาวอินโดฯ มาส่งที่บ้านก่อนที่จะให้ตัวเองดูแล จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ไล่กล้องพบว่าเป็นดาบตำรวจหญิงคนดังกล่าว ก่อนออกหมายจับและควบคุมตัวดำเนินคดี ในเบื้องต้นเจ้าตัวยังให้การปฎิเสธ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามช่วงที่มีการนำตัวส่งฝากขังศาล แต่เจ้าตัวไม่ยอมให้การใดๆ

อย่างไรก็ตามจากการสอบปากคำของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนในเบื้องต้น ด้านดาบตำรวจหญิง ผู้ตกเป็นผู้ต้องคดีอุ้มชาวอินโดนีเซียมาเรียกค่าไถ่ในครั้งนี้ ดาบตำรวจหญิงได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวแต่อย่างใด พร้อมทั้งจะขอต่อสู้คดีตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมให้ถึงที่สุด

ในเบื้องต้นตำรวจได้คัดค้านการประกันตัวฝากขังศาล และศาลก็ได้คัดค้านการประกันตัวเช่นกัน ต่อมาเวลา 15.00 น. วานนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 9 และชุดสืบสวนจังหวัดพัทลุง ได้ขอหมายศาลค้นบ้าน 2 หลังในพื้นที่ ต.ท่าแค อ.เมือง และ ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยหลังแรกในพื้นที่ ต.ท่าแค อ.เมือง เป็นบ้านของพี่ภรรยาเสียแป้ง นาโหนด แต่ไม่พบเจ้าของบ้าน และหลังที่ 2 พื้นที่ ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เป็นบ้านของดาบตำรวจหญิง โดยมีลูกชายอยู่บ้านเพียงลำพัง ก่อนเจ้าหน้าที่ได้ประสานญาติเข้ามาดูแลการตรวจค้นเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พ.ต.อ.จุมพฏ เลี่ยมแก้ว ผกก.สภ.เมืองพัทลุง เพื่อสอบถามรายละเอียดกรณีการออกหมายจับผู้ต้องหาชายไทยในคดีดังกล่าว จำนวน 2 ราย เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.จุมพฏ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและเป็นคดีที่มีความเชื่อมโยงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยกับประเทศอินโดนีเซีย การดำเนินการของตำรวจในทุกวิถีทางจะต้องดำเนินการไปอย่างสุขุม รอบคอบ