เมื่อวันที่ 18 พ.ค. เวลา 14.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของอิตาลี ที่ประเทศอิตาลี  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนำคณะสวมใส่ชุดที่ตัดเย็บจากผ้าขาวม้าเดินโชว์กลางเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ว่า เสื้อที่ตนนำมาสวมใส่ดังกล่าวทำมาจากผ้าขาวม้า 2-3 ผืน เนื่องจาก ผ้าขาวม้าบางผืนไม่พอ เนื่องจากตนเป็นคนตัวใหญ่ จึงต้องใช้ 2 ผืน ซึ่งตนมองว่าดูอินเตอร์ ไม่ได้อายใคร ซึ่งครั้งที่ผ่านมาเป็นผ้าพันคอ อย่างไรก็ตาม เราสามารถนำผ้าขาวม้ามาแปรรูปได้ ทั้งผ้าพันคอ หมวก กางเกงขาสั้น หรือเสื้อที่ใส่ออกมา ก็ดูสวยงามอย่างที่ทุกคนเห็น ถือเป็นแนวคิดในการแปรรูปสินค้าเพื่อทำให้ราคาสูงขึ้น ไม่ใช่ขายแค่ผ้าเฉยๆ

เมื่อถามว่าในการเยือนต่างประเทศหรือไปร่วมประชุมครั้งถัดๆไป จะนำผ้าขาวม้าไปประชาสัมพันธ์เช่นนี้อีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่ต้องขออุบไว้ก่อน เพราะแต่ละพื้นที่มีลักษณะแตกต่างกันไป อาทิ การเยือนฝรั่งเศสสามารถใส่เป็นผ้าพันคอได้ เพราะอยู่ในช่วงปลายฤดูหนาว ส่วนช่วงนี้เป็นต้นฤดูใบไม้ผลิ อุณหภูมิพอเหมาะ สามารถนำผ้าขาวม้ามาตัดเป็นเสื้อได้ ก็ต้องติดตามต่อไป แต่สิ่งเหล่านี้อยู่ในแผนและอยู่ในใจที่อยากจะสนับสนุนให้สินค้าพื้นเมืองดีขึ้น

เมื่อถามว่ามีแผนการนำผ้าไทยไปทำเป็นแบรนด์ให้มีเอกลักษณ์ของประเทศไทยเพื่อขายในระดับโลกอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า พยายามอยู่ แต่เรื่องพวกนี้เราเร่งไม่ได้ อยู่ดีๆของไม่เคยถูกนำมาฉายในเวทีโลกแต่เพิ่งทำออกมาในช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา จะมีความคาดหวังให้ไปได้เร็วไม่ได้ ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป ซึ่งจะมีความยั่งยืนกว่า ต้องมีการพัฒนาเรื่องคุณภาพ หากพัฒนาเร็ว สั่งซื้อมาเยอะ แต่ไม่มีของ ก็จะทำให้เลิกเป็นที่นิยม จึงขอให้ค่อยๆเป็นค่อยๆไปดีกว่า

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการไปเยี่ยมชมบริษัท VERSACE (เวอร์ซาเช่) เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่า เนื่องจาก VERSACE มีสาขาอยู่ที่เมืองไทย และมียอดขายที่ดีมาก ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศเป้าหมายหลัก ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจบริษัทดังกล่าวทำเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ ยกตัวอย่างเช่น เทย์เลอร์ สวิฟต์ เวลาที่เขาไปแสดงคอนเสิร์ต เวอร์ซาเช่จะเป็นผู้ดูแลเสื้อผ้าทั้งหมด ตนจึงพูดที่แผนระยะยาวให้ฟังว่าประเทศไทยมีแผนอย่างไรเกี่ยวกับการท่องเที่ยว อาทิ การจัดแข่งรถฟอร์มูล่า 1 และรถฟอร์มูล่า E  การจัดคอนเสิร์ต การจัดงานมิชลิน ฟู้ด เวิลด์ แฟร์ ที่จ.เชียงใหม่ ดังนั้นเรื่องไลฟ์สไตล์สามารถไปด้วยกันได้กับเรื่องแฟชั่น ซึ่งเวอร์ซาเช่จะไปคิดว่าสามารถเป็นส่วนหนึ่งในงานนี้ได้หรือไม่ เพื่อมากระตุ้นยอดขาย พร้อมกับเสิร์ฟเฟสติวัลต่างๆ เพื่อไปให้ถึงจุดหมายที่ควรจะเป็น โดยเวอร์ซาเช่รู้สึกตื่นเต้น เพราะเขาไม่เคยทราบว่าประเทศไทยมีแผนส่งเสริมการท่องเที่ยว เขาจึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจของไทยด้วย