เมื่อวันที่ 18 พ.ค. พ.ต.ท.องอาจ ปลัดขวา สว.(สอบสวน) สภ.กุดจับ จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุแทงกันเสียชีวิต ที่หน้าร้านขายของชำกลางหมู่บ้านดงธาตุ หมู่ 7 ต.กุดจับ อ.กุดจับ คนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 2 พี่น้องยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งมีอาการเมาหลอนเดินป้วนเปี้ยนวนเวียนอยู่ในหมู่บ้าน จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ต.พนม แสนทอง สว.สส.สภ.กุดจับ พ.ต.ต.สังวาลย์ บุญนันท์ สวป.สภ.กุดจับ กำลังตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจป้องกันและปราบปราม ชุดอุปกรณ์ไม้-เหล็กง่าม แพทย์เวร รพ.กุดจับ และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิอุดรส่างเมธาธรรมสถาน จุด อ.กุดจับ
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/05/1716034959019.jpg)
ที่เกิดเหตุพบศพนายอุไร คำเพ็ง อายุ 65 ปี สัปเหร่อวัดประจำหมู่บ้าน สภาพนอนหงายจมกองเลือดมีแผลถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมเข้าลิ้นปี่ มีชาวบ้านเก็บของกลางอาวุธมีดไว้ให้ตำรวจเป็นมีดพับปลายแหลมเปื้อนเลือด หรือมีดปลอกผลไม้ ยาวประมาณ 6 นิ้ว 1 เล่ม มีดตัดอ้อยยาวประมาณ 60 ซม. 1 เล่ม และมีดซาปาต้าเปื้อนเลือดความยาวประมาณ 60 ซม. 1 เล่ม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบว่าคือ นายยุทธพงษ์ ไชยวัน หรือไก่ อายุ 32 ปี และนายอดิศักดิ์ ไชยวัน อายุ 30 ปี สองพี่น้อง ซึ่งเป็นญาติผู้ตาย หลังก่อเหตุได้พากันขี่จักรยานปั่น สีชมพูกลับบ้านห่างจุดพบศพ 400 เมตร
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/05/1716034959196.jpg)
ตำรวจจึงนำกำลังไปตรวจสอบ พบทั้งนายยุทธพงษ์ นอนฟังเพลงอยู่บนเปลใต้ถุนบ้าน ข้างเปลพบมีดพร้าและขวาน ตำรวจจึงใช้ไม้ง่าม ไม้ตะขอ และโล่ เข้าควบคุมตัวไว้ได้ ขณะที่ยังอยู่ในอาการเมาเหล้าขาว และอาการหลอนยา พูดจาวกวนไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่จับใจความได้ว่า ไม่รู้ว่าตนเองกับน้องไปฆ่าสัปเหร่อ ซึ่งเป็นเครือญาติกัน และยังอ้างว่า ตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บถูกสัปเหร่อใช้มีดซาปาต้าฟันง่ามมือขวาบาดเจ็บ ปมจากมีปากเสียงเรื่องจัดงานศพให้ตาราคาแพง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาที่โรงพัก
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/05/1716034960109.jpg)
ขณะที่นายอดิศักดิ์ ผู้ก่อเหตุอีกรายหายตัวไปตำรวจจึงกระจายกำลังปูพรมหาตัวทั่วหมู่บ้าน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ยังไม่พบตัว จึงให้ญาติติดต่อเกลี่ยกล่อมให้เข้ามามอบตัว จากนั้นไม่นานได้นำตัวมาส่งให้ตำรวจชุดสืบสวน ควบคุมตัวมาสอบสวน ก่อนนำตัวทั้งสองไปตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วงทั้งสองคน แต่ทั้งสองยังอยู่ในอาการเมาและหลอน พูดจาไม่รู้เรื่อง และยอมรับว่าเสพยาบ้าเมื่อวาน(17พ.ค.) 3 เม็ด ก่อนพากันมากินเหล้าขาวต่อหลังใด้อึ่งมาทำอาหารมาจนเมา ก่อนพากันไปก่อเหตุ เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธมีดไปตมหมู่บ้าน หรือทางสาธารณ โดยไม่มีเหตุอันควร และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ”
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/05/1716034965341-1.jpg)
สอบถามชาวบ้านเห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ขณะขี่รถจักรยานยนต์มาจากไร่มันแวะมาซื้อกับข้าวที่ร้านของชำ เห็นผู้ตายถือมีดดาบยาววิ่งมา และร้องให้ตนช่วย จากนั้นมีนายยุทธพงษ์ ถือมีปลอกผลไม้ และนายอดิศักดิ์ ถือมีดตัดอ้อยวิ่งไล่ตามมาด้วย แต่ตนกลัวเพราะถือมีดดาบมา จากนั้นผู้ตายวิ่งออกไปหน้าร้าน ถูกคนก่อเหตุเตะตัดขาจนล้มลงหัวน็อกพื้นลุกขึ้นมาไม่ไหว นายยุทธพงษ์ ได้เหยียบแขนผู้ตายเอาไว้แล้วขึ้นค่อมนั่งทับตัวผู้ตาย ก่อนใช้มีดปลอกผลไม้แทงเข้าที่ลิ้นปี่ผู้ตาย ส่วนนายอดิศักดิ์ ก็ยืนเหยียบแขนผู้ตายเอาไว้ ไม่ให้ต่อสู้ ก่อนมีชาวบ้านเข้าไปห้าม และยึดมีดที่ใช้ก่อเหตุเอาไว้ จากนั้นคนก่อเหตุทั้งสองก็พากันหลบหนีไป ช่วงท้ายเหตุการณ์ตนได้ถ่ายคลิปเอาไว้เป็นหลักฐาน ขณะมีคนเข้าไปห้าม
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/05/1716034960296.jpg)
สอบถามพ่อผู้ก่อเหตุทั้งสอง เล่าว่า ตนเป็นพ่อของทั้งสองคน โดยทั้งสองดื่มสุราและเสพยาเสพติดกันมานานแล้ว นายยุทธพงษ์ ก่อนหน้านี้เคยไปทำงานกับน้าได้ 2 ปี กลับมาบ้านได้เพียง 1 เดือนกว่า ก็มาเสพยาเสพติด ส่วนนายอดิศักดิ์ ไม่ได้ทำงานอะไร อยู่บ้านติดเสพยาบ้าหนักเหมือนกัน เคยเอาไปบำบัดรักษาก็กลับมาเสพอีกเหมือนเดิม ส่วนผู้ตายก็เป็นเหมือนญาติ เพราะย้ายมาจาก อ.กุมภาปี ด้วยกัน ตั้งแต่มาอยู่นี้แรกๆ ส่วนสาเหตุคาดว่าเป็นเรื่องการจัดงานศพพ่อตาตน ที่ลูกชายชอบมาบ่นว่า เก็บค่าทำศพแพงเกินไป ตนเสียใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ขอโทษดวงวิญญาณผู้ตายแทนลูกชายที่ทำแบบนี้
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/05/1716034966734.jpg)
ส่วน น.ส.เหมย อายุ 18 ปี หลานสาวผู้ตาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณช่วงเที่ยง ทั้งสองถือมีดพากันมาถามหาพี่ชายตน ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน แต่เพราะเห็นสองพี่น้องพกมีดมาด้วยกลัวพี่ชายจะได้รับอันตราย จึงรีบไปบอกตาที่กำลังดูมวยอยู่ที่ร้านค้าในหมู่บ้าน ตาจึงขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านโดยพกมีดซาปาต้าเหน็บไว้ที่เบาะรถ แล้วขี่ไปหาหลานชายที่ทุ่งนา แต่มาเจอสองพี่น้องปั่นจักรยานอยู่บริเวณสี่แยกศาลากลางหมู่บ้านหลังเก่า ตาเห็นทั้งสองมีมีดตัดอ้อย และมีดพก จึงทิ้งรถวิ่งหลบหนีไปล้มหน้าร้านค้าห่างไปประมาณ 100 เมตร เพื่อขอความช่วยเหลือ และคงต่อสู้กันแล้วตาพลาดท่าล้มลงกับพื้นเสียชีวิตดังกล่าว
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/05/1716034958642.jpg)
หลานสาวเล่าอีกว่า ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่า ตาถูกเตะหัวหลายครั้งขณะล้มลง ก่อนถูกแทงเสียชีวิต ทั้งที่ชาวบ้านพยายามเข้าไปห้ามแต่ก็สายเกิดไป เพราะทุกคนก็กลัวจะได้รับอันตราย หลังก่อเหตุทั้งสองพากันถือมีดกลับบ้านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ชาวบ้านบางคนขับรถผ่านหน้าบ้าน ยังเห็นนั่งฟังเพลงสบายใจ ส่วนสาเหตุน่าจะเป็นเรื่องค่าปลงศพตาของคนก่อเหตุแพง เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา เพราะตาเป็นสัปเหร่อ และชอบพูดต่อว่าตาในงานศพเป็นประจำ ว่าจัดงานไม่สมกับราคาจ้าง ตาเคยไปพูดเรื่องนี้ให้ยายรับรู้ เพราะผู้ก่อเหตุเป็นญาติของยาย ยายก็บอกตาว่าไม่ต้องไปสนใจอะไร กระทั่งมาถูกก่อเหตุดังกล่าว
เบื้องต้นผู้ต้องหาปฏิเสธการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ยอมรับสารภาพว่า ร่วมกันก่อเหตุฆ่าผู้ตายจริง จึงแจ้งข้อกล่าวหาก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป