เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ขณะที่ ตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้ตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันเหตุอาชญากรรม จับกุมผู้กระทำความผิดทางอาญาฯ และ พ.ร.บ.ที่มีโทษทางอาญาฯ ริมถนนพหลโยธิน ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 48 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีชายขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน 6 ขอ 3895 กรุงเทพมหานคร มีลักษณะการขี่รถจักรยานยนต์ ส่ายไปส่ายมา เข้ามาในจุดตรวจ จึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ

โดยมีชาย อายุ 30 ปี เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ สอบถามพูดคุย เจ้าหน้าได้กลิ่นแอลกอฮอล์โชยออกมาจากลมหายใจอย่างชัดเจน เมื่อสอบถามบอกว่าได้ดื่มแอลกอฮอล์มานิดหน่อย จึงได้ขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ตรวจวัดได้ปริมาณ 214 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ทันทีที่ทราบผลการตรวจวัด ชายหนุ่มคนดังกล่าวถึงกล้าหน้าถอดสี ยอมรับว่า หลังเลิกงาน จากนั้นได้แวะไปหอพักของเพื่อนและมีการดื่มสังสรรค์กัน จากนั้น ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งเพื่อนอีกคน และกำลังจะกลับที่พักมาพบ เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจอยู่พอดี

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหา “เป็นผู้ขับขี่รถในขณะที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินกว่ากฎหมายกำหนด (พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ม.43 มีกำหนดโทษตาม ม.106) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” และควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระอินทร์ราชา ดำเนินการขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา ฝากถึงผู้ใช้รถใช้ถนน ขับขี่รถจักรยานยนต์ รถยนต์ หรือรถบรรทุก ก็ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ ในขณะขับขี่ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ อาจเกิดการสูญเสียทั้งร่างกายและทรัพย์สิน รวมถึงผู้อื่นที่ใช้ร่วมเส้นทางอาจได้รับความเดือดร้อน