เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พา นางเอม (นามสมมุติ) ผู้เป็นแม่ เดินทางไปรับศพ น.ส.บี (นามสมมุติ) ลูกสาวอายุ 31 ปี ที่เสียชีวิตปริศนาที่ประเทศบาห์เรน โดยมี นายนิทัศน์ กมลเวคิน ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ AOT และ พ.ต.อ.จักรพงศ์ นุชผดุง ผกก.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ช่วยเหลืออำนวยความสะดวกในการรับศพออกจากสนามบิน

ภายหลังหลังศพถูกส่งกลับมาประเทศไทย โดยการประสานงานของนางปวีณา กับกระทรวงการต่างประเทศ และสถานทูตไทยในบาห์เรน และคนไทยในบาห์เรนรวบรวมเงินบริจาคทั้งสิ้น 92,087.56 บาท ช่วยเหลือเป็นค่าดำเนินการและร่วมทำบุญจัดงานศพ และ นางปวีณา ได้ประสาน สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ส่งศพ น.ส.บี ไปชันสูตรทันทีตามที่แม่และญาติของผู้เสียชีวิตได้ร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา

ด้านนางเอม กล่าวว่า ครอบครัวตนมีฐานะยากจน ลูกสาวเป็นเสาหลักของครอบครัว ปี 2564 ลูกสาวตัดสินใจไปทำงานที่บาห์เรน เพื่อหาเงินส่งมาให้แม่เลี้ยงดูลูกน้อยอีก 3 คน กระทั่ง ต้นปี 66 ลูกสาวบอกว่าได้อยู่กินกับสามี ชาวบาห์เรน และลูกจะวิดีโอคอลมาคุยด้วยตลอด บางครั้งก็ให้ดูรอยเขียวช้ำตามตัวและเล่าว่าถูกสามีทำร้าย ก่อนที่ลูกสาวจะขาดการติดต่อไปตั้งแต่ 15 เม.ย. 66 ที่ผ่านมา ลูกสาวคนโตกับคนเล็กพยายามโพสต์ตามหา น.ส.บี แต่ก็ไร้วี่แวว

กระทั่งผ่านมา 1 ปี วันที่ 18 เม.ย. 67 ครอบครัวได้รับการติดต่อจากสถานทูตว่า พบศพหญิงสาวนิรนาม เสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย. 66 ศพถูกเก็บไว้ที่โรงพยาบาลซัลมาเนีย ประเทศบาห์เรน โดยแพทย์ที่บาห์เรน ระบุสาเหตุการตายว่า ปอดและหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เนื่องจากแอลกอฮอล์เป็นพิษ ซึ่งแม่ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะเห็นในรูปถ่ายของศพมีรอยช้ำตามตัว จึงคิดว่าลูกสาวอาจจะถูกสามีทำร้ายเสียชีวิต จึงเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ และเมื่อการชันสูตรศพแล้วเสร็จ ก็จะนำศพลูกสาวไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดมะเกลือ ย่านจอมทอง-ดาวคะนอง กรุงเทพฯ

ด้านนางปวีณา กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของ น.ส.บี และขอขอบคุณน้ำใจคนไทยที่บริจาคเงินช่วยเหลือ 92,087.56 บาท เป็นค่าดำเนินการส่งศพกลับและทำบุญช่วยงานศพ หลังจากนี้ มูลนิธิปวีณาฯ จะส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ หาสาเหตุการเสียชีวิตตามที่แม่ร้องขอ และจะให้ความช่วยเหลือในงานฌาปนกิจศพต่อไป ทั้งนี้ ขอเตือนสาวไทยที่คิดจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ควรจะตรวจสอบให้ดีเสียก่อน เนื่องจากเสี่ยงที่จะถูกหลอกค้าประเวณี ค้ามนุษย์ บังคับให้เสพยาเสพติด บางรายถึงขั้นถูกทำร้ายทุบตีจนเสียชีวิต

จากสถิติมูลนิธิปวีณาฯ ตั้งแต่ปี 2547-2565 มีสาวไทยถูกหลอกไปค้าประเวณีในต่างประเทศ ที่เป็นอันดับ 1 คือ บาห์เรน จากนั้นในปี 2566 สาวไทยถูกหลอกไปค้าประเวณีถึง 219 ราย อันดับ 1 คือ ดูไบ 56 ราย อันดับ 2 คือ เมียนมา 54 ราย อันดับ 3 คือ บาห์เรน 25 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจจะช่วยเหลือไม่ได้ทุกราย จากสถิติมูลนิธิปวีณาฯ ได้ช่วยเหลือสาวไทยที่เสียชีวิตในต่างประเทศ ตั้งแต่เดือน มกราคม-เมษายน 2567 หญิงไทยเสียชีวิตประเทศมาเลเซีย 3 ราย ประเทศบาห์เรน 2 ราย ไม่ทราบสาเหตุหลายราย ติดตามได้ยากเพราะเป็นการเสียชีวิตที่ต่างประเทศ.