เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากเหตุการณ์เมื่อช่วงเช้า วันที่ 15 พ.ค. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” ได้พา น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี เดินทางมา สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เข้าพบ พ.ต.อ.สร ซื่อตรงพานิช ผกก.สภ.กระทุ่มแบน และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ช่วยเหลือติดตามเด็กชายอายุ 7 ขวบ ลูกชายที่เกิดกับอดีตสามี วัย 33 ปี ที่เลิกกันมา 4 เดือนแล้ว บังคับพาตัวไป และยังมีวิดีโอคอลทำร้ายบีบคอ ใช้มีดจี้คอขู่จะฆ่าลูก บังคับฝ่าย น.ส.เอ กลับไปคืนดีด้วย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงาน พมจ.สมุทรสาคร และ กัน จอมพลัง เดินทางไปที่ห้องพักของพ่อเด็ก พื้นที่หมู่ 11 ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร แต่ปรากฏว่าไม่พบใคร สอบถามเบื้องต้นทราบว่า พ่อพาน้องเบล ออกจากห้องไปนานแล้ว มีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ซึ่งตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ น.ส.เอ พยายามติดต่อกับพ่อของเด็ก เพื่อนัดไปพบกันตามจุดต่างๆ แต่เมื่อไปถึงจุดนัดหมายหลายจุด ก็ปรากฏว่าไม่พบตัวพ่อและเด็ก จน กัน จอมพลัง ได้ประสานขอกำลังตำรวจภูธรภาค 7 ช่วยติดตามอีกทางหนึ่ง

กระทั่งเวลาประมาณ 18.30 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากทางพี่สาวของพ่อเด็ก ว่า พ่อเด็กจะพาน้องมาส่งให้ที่ สภ.กระทุ่มแบน ซึ่งพี่สาวของพ่อเด็กจึงได้รีบเดินทางมารอที่ สภ.กระทุ่มแบน เพื่อรอรับ โดยมี กัน จอมพลัง ผู้กำกับการ เจ้าหน้าที่ พม. และ น.ส.เอ รออย่างมีความหวัง จนเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. พ่อเด็ก ขี่รถจักรยานยนต์พาน้องมาถึง โดยพ่อเด็ก เผยว่า ไม่ได้พาลูกหนี หรือคิดจะพาไปทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด แต่ตั้งใจจะพาลูกไปฝากไว้กับพี่สาวและน้องสาว ที่อยู่ต่างจังหวัด ซึ่งก็เคยบอก น.ส.เอ แม่เด็กไปแล้ว จนเมื่อขี่ไปไกลถึงแถวๆ บางบัวทอง จ.นนทบุรี ก็ได้รับโทรศัพท์จากแม่ของเด็กว่า อยากเจอลูกจึงวกรถกลับมา

พ่อเด็ก เล่าอีกว่า ส่วนที่มีคลิปว่าตนทำร้ายลูกเมื่อ 2 วันก่อนนั้น ยอมรับว่าลงมือทำจริง เพราะอารมณ์โมโหแม่เด็กที่ไม่รักษาคำพูด ที่บอกว่า จะส่งเอกสารของแม่และลูกมาให้เพื่อพาลูกไปสมัครเข้าโรงเรียน เพราะใกล้เปิดเทอมแล้ว ซึ่งพอโทรฯ ไปทวงถามก็บอกว่าติดงานแต่ง ต้องไปธุระ ไม่ยอมส่งเอกสารมาให้สักที จึงทำร้ายลูกเพราะต้องการประชดเท่านั้น พอมาวันนี้เห็นว่ายังไม่ได้เอกสารและโรงเรียนก็จะเปิดเทอมแล้วนั้น จึงตั้งใจที่จะพาลูกไปฝากไว้กับพี่สาวหรือน้องสาวก่อน ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องเช่นนี้ ซึ่งตลอดทั้งวันก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งเย็น พี่สาวโทรฯ ไปบอกว่ามีข่าวแบบนี้ จึงได้ติดต่อกลับพี่สาวให้มารับหลานที่โรงพัก และขอพูดคุยกับแม่เด็ก รวมถึงพร้อมที่จะยอมรับการกระทำความผิดด้วย

พ่อเด็ก ยังบอกอีกว่า ยอมรับว่ามีการเสพยาเสพติด จึงทำให้บางครั้งมีอารมณ์ร้อน โมโหง่าย ส่วนเรื่องกรอกน้ำยาล้างห้องน้ำนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อราวๆ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมา แม้ตนไม่ได้เลี้ยงดูลูก และไม่ได้ส่งเสียลูก เพราะมีพ่อแม่ตน หรือปู่กับย่าของเด็กเลี้ยงดูและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ แต่พอแม่เสีย ตนก็ไปรับลูกมาอยู่ด้วย และตั้งใจจะพาลูกเข้าโรงเรียนที่นี่ แต่เมื่อโทรฯ ไปบอกให้แม่ของเด็กส่งเอกสารมา กลับไม่ได้รับความใส่ใจ จึงลงมือทำร้ายเด็กตามคลิปที่ปรากฏ เพราะต้องการประชดแม่เด็กโดยขาดสติยั้งคิดทำรุนแรงกับลูก

ทั้งนี้เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวพ่อของน้องเบล ไปพบเพื่อพูดคุยกับ น.ส.เอ แม่ของเด็ก ก่อนนำตัวไปตรวจปัสสาวะ และแจ้งความดำเนินคดีใน 3 ข้อหา คือ ข่มขืนผู้อื่นให้กระทำการใดและไม่กระทำการใด โดยขู่ว่าจะทำอันตรายแก่ร่างกายผู้อื่น อันเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพ, ความผิดตาม พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว และ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ส่วนน้องเบลนั้นเบื้องต้น ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ พม. ได้มีการพูดคุยสอบถามพร้อมประเมินสภาพร่างกาย และจิตใจของเด็ก ก่อนที่จะอนุญาตให้แม่ของเด็กรับไปดูแลตามความประสงค์ต่อไป.