เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ สภ.ทุ่งเบญจา ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี น.ส.อริสรา นาพญาธีระกุล อายุ 37 ปี เจ้าของล้งทุเรียนอาหยาง พื้นที่ ต.วังใหม่ อ.นายายอาม จ.จันทบุรี นำเอกสารเป็นหนังสือสัญญาซื้อขายทุเรียน เดินทางเข้าพบกับ ร.ต.อ.อัษฎายุธ ทองสวรรค์ รอง สว.สส.(สอบสวน) สภ.ทุ่งเบญจา เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ หลังถูกหลอกให้ทำสัญญาเหมาซื้อตัดทุเรียน ในสวนผลไม้แห่งหนึ่งใน ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ โดยมีการโอนเงินจ่ายค่ามัดจำไปแล้ว แต่เมื่อถึงวันครบกำหนดเข้าตัด กลับพบว่าทุเรียนที่ทำสัญญาเหมาไว้ มีคนเข้ามาตัดไปแล้ว จึงมารู้ตัวว่าถูกหลอก

ขณะที่ น.ส.อริสรา เจ้าของล้งผู้เสียหาย กำลังให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนได้มีผู้ประกอบการรับซื้อทุเรียนอีกนับ 10 ราย ซึ่งตกเป็นผู้เสียหายนำเอกสารสัญญาซื้อขายทุเรียน นำเอกสารพร้อมกับรูปถ่าย ที่ทำกับนายหน้ารายเดียวกัน เดินทางเข้ามาแจ้งความด้วยเช่นกัน

จากการสอบถาม น.ส.อริสรา และผู้เสียหายรายอื่นๆ ให้ข้อมูล ซึ่งมีความคล้ายและสอดคล้องกันว่า ก่อนหน้านี้ได้มอบให้สายตัดทุเรียนของแต่ละล้งติดต่อกับนายหน้ารายหนึ่ง เพื่อให้ช่วยหาเหมาสวนตัดทุเรียน ทราบชื่อต่อมาคือ นายวัน (นามสมมุติ) ผ่านทาง นางพู (นามสมมุติ) นายหน้าอีกคน ที่เคยทำธุรกิจด้วยกันมาก่อน

ต่อมา นายวัน ได้พามือตัดไปดูสวนทุเรียน ในพื้นที่ ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี โดยอ้างว่าตัวเองเป็นเจ้าของสวน และมีการพูดคุยกันจนมือตัดหลงเชื่อ ได้ทำสัญญาเหมาตัดสวนทุเรียนจำนวน 5 พันลูก เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา โดยได้เรียกเงินค่ามัดจำไป 150,000 บาท แต่เมื่อถึงวันครบกำหนดสัญญาได้เข้ามาที่สวน กลับพบว่าทุเรียนที่เหมาไว้ถูกตัดไปแล้ว ซ้ำ นายวัน ก็ไม่ใช่เจ้าของสวนทุเรียนตัวจริง จึงได้นำมาโพสต์แจ้งเตือนภัยในโซเชียล

จากนั้นจึงได้มีเจ้าของล้งรับซื้อทุเรียนอีกหลายราย ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าถูก นายวัน นายหน้าคนเดียวกัน หลอกพาไปดูสวนและปลอมตัวว่าเป็นเจ้าของ บางรายถูกอ้างว่าเป็นคนเช่า และมีการทำสัญญาซ้อนในสวนเดียวกัน จึงต่างพากันนำหลักฐานไปแจ้งความกับตำรวจ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายหน้าแสบ ในท้องที่ที่ได้รับความเสียหาย เบื้องต้นรับข้อมูลจากตำรวจว่ามีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ 2 อำเภอ คืออำเภอท่าใหม่ และอำเภอเขาคิชฌกูฏ

ด้าน น.ส.อริสรา เจ้าของล้งผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า จากการที่มีเจ้าของล้งรับซื้อทุเรียนออกมาแจ้งความและให้ข้อมูล ยังพบว่ามีตัวละครทั้งที่มาแสดงเป็นเจ้าของสวน/นายหน้า และผู้เช่าสวน ซึ่งล้วนมีความเกี่ยวข้องกับ นายวัน นายหน้ากำมะลอรายนี้ จึงตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะเป็นการทำในรูปแบบขบวนการ ขณะนี้ได้มีผู้เสียหายออกมาแสดงตัว และเข้าแจ้งความกับตำรวจแล้วกว่า 10 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท และคาดว่าจะยังมีผู้เสียหายทยอยออกมาแจ้งความเรื่อยๆ

ทั้งนี้ อยากให้ทางตำรวจติดตามจับกุมตัวนายหน้า ซึ่งถือว่าเป็นภัยสังคม มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับชาวสวน และ จ.จันทบุรี โดยเร็ว.