เรียกได้ว่ายังคงเป็นประเด็นที่โลกออนไลน์ต่างพากันให้ความสนใจ และติดตามกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับข่าวหนุ่มหล่อ เสน่ห์แรง อย่าง “พีเค-ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร” ที่ได้ออกมาประกาศจบจริงกับ “โจลี่ เหงียน” นางแบบสาวเวียดนาม แล้ว 100% พร้อมบอกไม่มีทางกลับไปแน่นอน และได้อันฟอลโลว์นางแบบสาวเวียดนามจากอินสตาแกรมแล้ว โดยพีเค ยังได้เผยถึงอดีตภรรยา “โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์” ถ้าจะกลับมาเดี๋ยวคุยกันใหม่ จนเป็นประเด็นที่โลกออนไลน์พูดถึงกันไม่หยุด

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ดีเจสาวอารมณ์ดี “ดาด้า วรินดา” ได้ออกมาพูดถึงเรื่องราวดังกล่าว โดยได้เตือนสติดีเจรุ่นพี่อย่าง พีเค ในรายการวิทยุเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2567 ว่า “ผู้หญิงคนนี้อันตรายไม่ควรเข้าใกล้เพราะถ้าเขาหวังดีจะไม่ทำแบบนี้” ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด ดีเจดาด้า ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์” ถึงประเด็นดังกล่าวนี้ด้วยว่า “ยังยืนยันเหมือนในรายการคือเรารู้จักกับพี่พีเคมา 20 ปี คือเรารู้สึกว่าเราต้องเตือนพี่ชาย ที่ผ่านมาก็ไม่ได้สนับสนุนเกี่ยวกับอะไรแบบนี้ เพราะเราก็เป็นคนมีครอบครัว พยายามเตือนสติ แต่อันนี้หลังไมค์ลึกๆ แล้วพี่พีเคเขารู้สึกผิดนะ จากความรู้สึกส่วนตัว ลึกๆ ด้าว่าเขารู้สึกผิดกับการตัดสินใจในครั้งนี้ แต่ว่ามันเป็นเรื่องที่เขาต้องได้บทเรียน และด้าเชื่อว่าครั้งนี้เป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ของพี่พีเค แต่พอจบรายการเราก็มีการพูดคุยกันนะ ที่ผ่านมาในฐานะเพื่อนร่วมงานกัน เราทำงานจัดรายการด้วยกันทุกวัน เวลาที่เขาไม่สบายเราในฐานะเพื่อนร่วมงานก็ดูออกอยู่แล้ว วันที่เขามีปัญหากับครอบครัว เราก็รู้เรื่องราวมาตลอด แต่ ณ ตอนนั้นเขาไม่สามารถพูดออกสื่อได้ เราในฐานะเพื่อนร่วมงานเราก็แค่รับฟัง แต่ที่ผ่านมาก็จะคอยเตือนสติเขาว่าลองคิดดีๆ อะไรอย่างนี้ ประมาณนี้ สำหรับเรื่องสมุยทราบพร้อมกับทุกๆ คน แต่ก่อนหน้านั้นที่เขามีปัญหา เราในฐานะเพื่อนร่วมงานเราก็รู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่พีเค ซึ่งเราก็เตือนมาตลอด (เราเคยรู้จักนิสัยฝั่งนู้นมั้ย) ไม่เคยรู้จักนิสัย ด้วยความที่เราเป็นเพื่อน เราก็ไปสืบหาข้อมูล ซึ่งส่วนใหญ่ก็ได้จากเพจต่างๆ แล้วก็ดูคอมเมนต์คนที่อยู่ในเวียดนาม แล้วเราก็เสิร์ชข่าวที่เวียดนามว่าเป็นยังไงบ้าง

เราในฐานะน้องสาวก็ได้เตือนพี่ในฐานะพี่ชายว่ามันมีข่าวแบบนี้เท่านั้นเอง (วันนั้นที่เขาบอกว่าถ้ากลับมาคบกันอีก เขาก็จะกลับมาคบกัน เราสะอึกมั้ย?) ก็นิดนึง ก็ตกใจ แต่ตอนนี้ล่าสุดที่ถามหลังจากที่มันเป็นข่าวอีกครั้งหนึ่ง พี่พีเคก็บอกว่าไม่เอาแล้วตัดแล้ว ชัวร์ (100% มั้ย?) แหม่เราก็ไม่ใช่เขานะ แต่เขาบอกว่าตัดแล้ว ณ ตอนนี้ แต่ไม่เป็นไรเราเป็นหมาหลายรอบแล้ว ตอนต้นหอมเราก็เป็นหมารอบนึงแล้ว แล้วก็รู้สึกว่ารอบนี้เป็นหมาก็ไม่เป็นไร เพราะว่าเราเตือนในฐานะเรารัก เราไม่อยากจะอวย เราไม่อยากจะให้เขาหลงทาง แต่เราก็ไม่ใช่ตัวเขา เพราะฉะนั้นเราก็พูดในสิ่งที่คนนอกมอง บางคนที่คนที่อยู่ในเหตุการณ์เขามองไม่ออกหรอก เรื่องราวความรักมันห้ามกันไม่ได้ (กล้วเขาโกรธมั้ย?) ไม่กลัว เพราะอย่างด้าพี่พีเคเขามองด้าว่าเป็นน้องสาว และที่ผ่านมาด้าไม่เคยอวย อันนี้เป็นธรรมชาติของเราอยู่แล้ว เขาก็จะชินกับคำพูดของด้าที่เป็นคนตรงๆ แบบนี้ (พีเคเขาสำนึกมั้ย เพราะออกสื่อไม่มีบอกว่าจะขอโทษ) อันนี้คุยกันหลังไมค์ส่วนตัวเขารู้สึกผิด แต่วิธีการพูดสไตล์ของพี่พีเค นิสัยเขาเขาจะเป็นคนที่ไม่กล้าพูดคำว่าขอโทษกับสื่อเยอะๆ อันนี้ก็เป็นคาแรกเตอร์ส่วนตัวของเขา แต่ในฐานะเพื่อนร่วมงานโดยส่วนตัวเขาก็รู้สึกผิด”

ดีเจดาด้า เผยต่อว่า “ถ้าถามว่าหลังจากนี้เขาจะกล้าพูดเปิดใจกับเรามั้ย คือเราทำงานมา 20 ปีกับพี่พีเค ถ้าในมุมหลังไมค์ด้าว่าเราคุยกันปกติ ด้าคุยล่าสุดหลังจากที่มีข่าวว่าไปให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่ารีเทิร์น อันนั้นก็ได้คุยกัน ได้ถาม (เราเชียร์ให้เขากลับไปมั้ย?) อันนี้ก็ต้องถามอีกฝ่ายหนึ่งด้วยว่าพร้อมจะกลับไปหรือเปล่า (มีลุ้นมั้ย?) ไม่รู้เลยจริงๆ ตอนที่คุยกันสภาพจิตใจพี่พีเครู้สึกว่าเขารู้สึกผิด แต่สไตล์คำพูดพี่พีเคคือเขาต้องเท่ แต่ลึกๆ เขารู้สึกว่าเขาผิด เดี๋ยววันพุธนี้เจอกันในรายการวิทยุก็จะพยายามดึงสติพี่ชาย ว่าจะคิด จะพูดอะไร ต้องคิดให้มากขึ้น”..