จากกรณีที่มีเหตุเพลิงไหม้ถังเก็บวัตถุดิบสารไพรโรไลสีส แก๊สโซลีน บริษัท มาบตาพุดแทงค์ เทอร์มินัล จำกัด เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.37 น. ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ เลขที่ 18 ถนนไอ 8 ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง และสถานการณ์ได้กลับข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ซึ่งทางบริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC ได้เดินหน้าลงชุมชนเพื่อเยียวยาปปช.ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างเต็มที่ทุกรูปแบบ พร้อมกันนี้ยังได้ดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมในชุมชนที่ชาวบ้านในพื้นที่ได้ร้องขอมาทุกมิติ

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 13 พ.ค. นายศักดิ์ชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC พร้อมด้วยนายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานกรรมการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และทีมงานด้าน ซีเอสอาร์ประชาสัมพันธ์บริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ รุดลงพื้นที่พบชุมชนที่ได้รับผลกระทบเพื่อขออภัยและรับฟังข้อปัญหาต่าง ๆ จากชุมชน เชื่อมั่นชุมชนกับโรงงานจะต้องอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขและด้วยความเข้าใจ พร้อมเดินหน้าเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง

นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า “ผมขออภัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เราพยายามอย่างเต็มที่ในการควบคุมสถานการณ์ให้สงบโดยเร็วที่สุด ขณะนี้ อยู่ระหว่างการเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ทั้งในด้านสุขภาพของชุมชนที่ได้รับผลกระทบ และคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยเราได้เร่งระดมทีมเข้าช่วยเหลือดูแลชุมชนอย่างเต็มที่ และจะทำให้เข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อคลายกังวลให้กับพี่น้องชุมชน โดยได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบ ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับผู้ที่มีความกังวลในสุขภาพสามารถเข้ารับการตรวจได้ที่ ศูนย์บริการสาธารณสุข ตากวน-อ่าวประดู่ จ.ระยอง โดยมีบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญพร้อมตรวจและให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ บริษัทฯ จะลงพื้นที่เชิงรุก เพื่อรับฟังและช่วยบรรเทาปัญหาในเบื้องต้นให้กับชุมชน”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า “บริษัทฯ ได้เฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ จากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบต่อเนื่องของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และเทศบาลเมืองมาบตาพุด อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน นอกจากนี้ น้ำและโฟมจากการดับเพลิงที่ถูกกั้นไว้ในเขื่อนกั้น (Bund) ความสูง 4 เมตร เตรียมนำไปกำจัดอย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อไปจึงไม่รั่วไหลและปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อม” สำหรับผู้ได้รับผลกระทบ สามารถติดต่อศูนย์ช่วยเหลือฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โทร 085-650-4049