จากกรณีที่มีข่าว ส.ส.ศรีสะเกษ ขึ้นป้าย ข้อความว่า “ส่งเสริม soft power ช่วยกันผลักดันประเพณีงานบุญบั้งไฟ อำเภอราษีไศล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ” ที่บ้านคูสระใหญ่ ต.ไผ่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ และมีการเก็บบัตรขายตั๋วเข้าชมงานในราคาคนละ 100 บาท และเก็บค่าบริการจอดรถ จำนวน 100 บาท พร้อมทั้งมีการปักร่ม กางเต้นท์ เช่าเก้าอี้นั่ง ตัวละ 100 บาท จำหน่ายเหล้าเบียร์ ตลอดงาน และยังพบว่ามีการแอบลักลอบเล่นพนันบั้งไฟ จนเป็นกระแสข่าวดราม่าตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 พ.ค. พล.ต.ต.พิษณุ วัตถุ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้สั่งการให้สถานีตำรวจภูธรทุกแห่งในพื้นที่ ให้ประสานกับทางอำเภอในพื้นที่ เพื่อให้ทราบข้อมูลการอนุญาตให้จุดและปล่อยบั้งไฟในพื้นที่รับผิดชอบ และลงพื้นที่บูรณาการกับฝ่ายปกครอง ตรวจเข้มทั้งใบอนุญาต ทั้งขนาดของบั้งไฟที่ใช้จุด และตั้งด่านตรวจรถขนบั้งไฟที่นำบั้งไฟเกินขนาดเข้ามาในพื้นที่ โดยให้ยึดปฏิบัติตามตามประกาศจังหวัดศรีสะเกษ เรื่อง มาตรการป้องกันและรักษาความปลอดภัยและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนในการจุดและปล่อยหรือกระทำการอย่างใดเพื่อให้ บั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควันหรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ขึ้นไปสู่อากาศ ลงวันที่ 30 ก.ย. 59 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 12 ต.ค. 59 และให้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ รักษาความสงบเรียบร้อย ในพื้นที่บริเวณจัดงาน หากพบการกระทำความผิด ให้จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างเคร่งครัด

อย่างไรก็ตามหลังสื่อนำเสนอข่าวกรณีดังกล่าวแล้วนั้น ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต่างลงพื้นที่ตรวจเข้ม จนทำให้สนามบั้งไฟหลายแห่งในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ต้องประกาศปิดสนามลงกลางคัน ส่งผลทำให้ผู้ประกอบการ และผู้เข้าร่วมงานแตกฮือ จนเงียบเหงาไปตามๆกัน.