จากกรณีแม่เสือสาวเป็นผู้หญิงวัย 50 ปี ขึ้นรถตู้โดยสารสาสาธารณะสายสระบุรี-ตลาดโรงเกลือ สีขาว ป้ายเหลืองหมายเลข 10-1778 ปราจีนบุรี ออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดสระบุรี มุ่งหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดสระแก้ว จากนั้นใช้กลอุบายพูดคุยกับคนขับรถตู้แล้วชักชวนดื่มเบียร์ แล้วมีการผสมยาลงในเครื่องดื่ม ทำให้คนขับรถตู้มีอาการมึนงง พูดจาไม่รู้เรื่อง ประคองตัวเองไม่ได้จนฟุบลงข้างรถ แล้วฉกทรัพย์สินเป็นทองคำ และเงินสดไป รวมมูลค่ากว่า 3 แสนบาท จากนั้นพลเมืองดีแจ้งเจ้าหน้าที่นำตัวส่ง รพ.อรัญประเทศ โดยแพทย์ตรวจพบว่ามีสารพิษในกระเพาะอาหาร ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 6 พ.ค. พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.คลองลึก ร่วมสอบปากคำ น.ส.รสสุคนธ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี ผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์คนขับรถตู้โดยสาร หลังถูกชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ร่วมกับ สืบสวน สภ.คลองลึก จับกุมเอาไว้ได้

น.ส.รสสุคนธ์ ให้การยอมรับว่า ได้ก่อเหตุจริงโดยวันเกิดเหตุเห็นว่าคนขับรถตู้โดยสารคันดังกล่าวใส่ทรัพย์สินมากมาย จึงขึ้นรถมาจนสุดสาย และได้ใช้กลอุบายพูดคุยจนสนิทใจ ก่อนชักชวนไปดื่มเบียร์ที่ข้างทางแห่งหนึ่ง และไปดื่มต่อที่ร้านอาหาร และใช้ยานอนหลับผสมกับเครื่องดื่มเบียร์ เมื่อเห็นเหยื่อหมดสติ จึงปลดเอาทรัพย์สินไปจนหมด แล้วจ้างรถจักรยานยนต์พ่วงข้างให้ไปส่งเพื่อขึ้นรถแท็กซี่โดยสาร ให้มาส่งที่บริเวณ ริมถนน บางนา-ตราด และกลับเข้าพักที่บ้าน โดยรุ่งเช้าก็ได้นำทรัพย์สินที่ได้มาทยอยขายบางส่วนตามร้านทั่วไป และเงินที่ได้มาก็นำไปใช้หนี้สินที่เล่นการพนันเสียและเงินกู้นอกระบบ

หนุ่มใหญ่วัย68 เสียท่าแม่เสือสาวชวนดื่มเบียร์ 2 ขวดเกือบสลบสูญกว่า 3 แสน

ด้าน พ.ต.อ.จตุรภัทร เปิดเผยว่า พบว่าผู้ต้องหารายนี้ได้มีการก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้เมื่อหลายปีก่อน จึงติดตามจนทราบตัวแน่ชัดและควบคุมตัวไว้ได้ ทั้งนี้ได้ตรวจสอบประวัติย้อนหลังพบว่า ผู้ต้องหาเคยถูกตำรวจ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ จับกุมตัวเมื่อต้นปี พ.ศ. 2560 ซึ่งในขณะนั้นได้ใช้ยาเสียสาว หรือ ยาอัลปราโซแลม หลอกเหยื่อที่ประกอบอาชีพขับรถรับจ้างให้ไปส่งยังสถานที่ท่องเที่ยว ในราคาที่สูงกว่าปกติ จนเหยื่อหลงเชื่อ จากนั้นจะหลอกให้เหยื่อดื่มน้ำที่ผสมกับยานอนหลับชนิดรุนแรง จนมีอาการมึนงง หรือง่วงนอน ก็จะปลดเอาทรัพย์สินที่มีค่าไป

อย่างไรก็ตาม จนท.ตำรวจ จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ นอกจากนี้ก็จะได้ติดตามเอาทรัพย์สินที่เหลือกลับคืนมาจนครบ และดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.