ในสังคมยุคใหม่ที่ไร้การปิดกั้น…โดยเฉพาะเพศทางเลือกอย่างชายรักชาย หรือในอดีตที่ถูกเรียกว่า “ชาวเกย์” จนปัจจุบันมีศัพท์ใหม่ที่เรียกกันว่า “LGBTQ” เพราะมีความหลากหลายทางเพศ ทั้งกลุ่มผู้หญิงรักผู้หญิง, กลุ่มชายรักชาย, กลุ่มที่รักได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง, กลุ่มคนข้ามเพศ จากเพศชายเป็นเพศหญิง หรือเพศหญิงเป็นเพศชาย และกลุ่มคนที่พึงพอใจต่อเพศใดเพศหนึ่งไม่ได้จำกัดในเรื่องเพศ และความรัก

จากการวิเคราะห์ของ GAY TIMES ได้คาดการณ์ว่าในปี 2593 ทั่วโลกจะมีจำนวนประชากร LGBTQ ถึง 1,000 ล้านคน  และอำนาจการใช้จ่ายรวมทั่วโลกของผู้บริโภคกลุ่มนี้มีถึง 3.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือประมาณ 136 ล้านล้านบาท ทำให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ต่างมองว่า กลุ่มคนเหล่านี้ถือเป็นกำลังซื้อสำคัญเพราะหาเงินเก่ง ปัจจุบันมีรายได้ 50,000-85,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมากกว่ากลุ่มสถานะชายหญิง และมีรสนิยมเรียบหรู ดูแพง เน้นแบรนด์เนม

หากดูข้อมูลเชิงลึกพบว่า ในช่วงปี 2561-2562 ที่ผ่านมา ไทยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มากเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชีย (6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และอันดับ 4 ของโลก รองจาก สหรัฐอเมริกา (25.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ), สเปน (8.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และฝรั่งเศส (7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

นายสุเมธ ศรีเมือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีเซอร์คิท จำกัด ผู้จัดอีเวนต์เกย์แดนซ์เฟสติวัล ให้ข้อมูลว่า ประเทศไทยถือเป็นประเทศ 1 ใน 5 ของโลกที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวเกย์หรือกลุ่ม LGBTQ โดยเฉพาะการจัดงานอีเวนต์ใหญ่อย่าง เทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ 

สำหรับเหตุผลที่กลุ่ม LGBTQ ชอบมาเมืองไทย  

1.ไทยเป็นแดนสวรรค์ที่คนกลุ่มนี้ได้รับอิสระ มีการเปิดรับคนจากทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกเชื้อชาติ

2.มีการร่าง “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” ถือเป็นการผ่านร่างกฎหมายครั้งสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ไทย ซึ่งเป็นประเทศที่ 3 ของเอเชีย ต่อจากไต้หวัน และเนปาล และเป็นที่แรกในอาเซียน ทำให้เริ่มมีการเข้ามาแต่งงานในประเทศไทย

3.จัดอีเวนต์ได้โดนใจ ทำให้ทั่วโลกต่างรอคอยที่จะเข้ามาร่วมสนุก

4.อาหารอร่อย จากหลากหลายภูมิภาค

5.โรงแรมที่พัก มีแหล่งชอปปิงสะดวก จากการเดินทางได้ทั้งรถโดยสาร รถยนต์ส่วนตัว รวมทั้งมีรถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับสถานที่ต่างๆ เรียกว่า สะดวกมาก

6.มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งด้านศิลปะ วัฒนธรรม ทะเล ภูเขา น้ำตก