สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ว่า กำแพงตาข่ายสีดำขนาดใหญ่จะถูกติดตั้ง เพื่อปิดกั้นมุมมองของจุดถ่ายภาพภูเขาไฟฟูจิยอดนิยม เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ยอมปฏิบัติตามกฎระเบียบของหน่วยงานท้องถิ่น และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่

เจ้าหน้าที่ระบุว่า การก่อสร้างกำแพงตาข่ายสูง 2.5 เมตร ยาว 20 เมตร เท่าสนามคริกเกต จะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์หน้า โดยระบุเพิ่มเติมว่า “เป็นเรื่องน่าเสียใจที่เราต้องทำเช่นนี้ แต่นักท่องเที่ยวบางคนไม่ยอมเคารพกฎเกณฑ์ เช่น ทิ้งขยะไปทั่วพื้นที่และเพิกเฉยต่อกฎจราจร”

ตอนนี้ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในญี่ปุ่นมากเป็นประวัติการณ์ โดยเมื่อเดือน มี.ค. มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศเกิน 3 ล้านคนเป็นครั้งแรก

ภูเขาไฟฟูจิเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายภาพภูเขาได้จากหลายพื้นที่ของเมืองตากอากาศฟูจิคาวากูจิโกะ อย่างไรก็ดี จุดชมวิวดังกล่าวได้รับความนิยมเป็นพิเศษ เนื่องจากมีภาพภูเขาไฟฟูจิปรากฏอยู่ด้านหลังร้านสะดวกซื้อลอว์สัน

“ภาพจากจุดชมวิวที่สวยงามอย่างลงตัว สร้างชื่อเสียงบนโซเชียลมีเดียและได้รับการเผยแพร่ว่า “มีความเป็นญี่ปุ่นมาก” จนกลายเป็นสถานที่ถ่ายรูปยอดนิยม” เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุ เขาอธิบายว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติเบียดเสียดอยู่บนทางเท้าข้างร้านลอว์สัน ไม่สนใจป้ายจราจรและคำเตือนซ้ำ ๆ จากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทำให้ต้องตัดสินใจใช้ “ทางเลือกสุดท้าย”

ด้วยเหตุนี้ มาตรการดังกล่าวจะช่วยปกป้องคลินิกทันตกรรมในบริเวณใกล้เคียง เนื่องจากนักท่องเที่ยวเข้ามาจอดรถโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีผู้พบเห็นนักท่องเที่ยว ปีนขึ้นไปบนหลังคาของคลินิกเพื่อถ่ายภาพ

ทางการท้องถิ่นไม่เคยคาดหวังให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ อย่างไรก็ดี การติดตั้งกำแพงตาข่ายจะมีผลเรื่อยไป จนกว่าสถานการณ์ในพื้นที่จะดีขึ้น

การท่องเที่ยวญี่ปุ่นกำลังเฟื่องฟู นับตั้งแต่ยกเลิกมาตรการจำกัดการเข้าประเทศ ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 และรัฐบาลได้พยายามอย่างหนัก เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกพื้นที่ในญี่ปุ่นยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยว เช่น เมืองเกียวโต ซึ่งชาวบ้านไม่พอใจ ต่อการที่นักท่องเที่ยวเข้ามารังควานเหล่าเกอิชา นอกจากนั้น ในฤดูร้อนที่จะมาถึงนี้ นักเดินเขาที่ต้องการจะใช้เส้นทางยอดนิยมอย่างภูเขาไฟฟูจิ จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 13 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 481 บาท) และจะมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว เพื่อลดความแออัดด้วย

นอกจากญี่ปุ่นแล้ว จุดหมายปลายทางชื่อดังทั่วโลกหลายแห่ง ก็ประสบปัญหาจำนวนนักท่องเที่ยวมากเกินไปเช่นกัน โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เมืองเวนิสเริ่มมาตรการเก็บค่าธรรมเนียมเข้าชมเมือง จากนักท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ เพื่อลดจำนวนนักท่องเที่ยวมวลชน.

เครดิตภาพ : AFP