เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความ พร้อมภาพประกอบ ระบุว่า ด้วยมีประชาชนให้ความสนใจเกี่ยวกับการเรียนรู้พระพุทธศาสนามากขึ้น และพยายามศึกษาเรียนรู้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในหลักการและพร้อมที่จะนำข้อมูลหรือหลักธรรมไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ในโอกาสนี้ จึงขอนำข้อมูลอ้างอิงบางส่วนเกี่ยวกับพุทธประวัติ จาก บาลี พุทธว. ขุ. 33/543/26. ดังนี้

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้มีพุทธดำรัสเกี่ยวกับพระประวัติในช่วงก่อนที่พระพุทธองค์จะเสด็จออกผนวช ความว่า “บัดนี้ เราผู้ โคตมโคตร เจริญแล้วใน สากยตระกูล เคยตั้งความเพียรไว้ได้บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณอันสูงสุด เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นครของเราชื่อ กบิลพัสดุ์, บิดาของเราเป็นราชาชื่อ สุทโธทนะ, มารดาผู้ให้กำเนิดเราชื่อ มายาเทวี, เราอยู่ครองเรือน 29 ปี มีปราสาทสูงสุด 3 หลัง ชื่อ สุจันทะ โกกนุทะ และโกญจะ มีหญิงประดับดีแล้วสี่หมื่นนาง, นารีผู้เป็นชายาชื่อ ยโสธรา, ลูกเราชื่อ ราหุล เพราะได้เห็น นิมิตทั้งสี่ เราจึงออกด้วยม้าเป็นพาหนะ ทำความเพียรถึงหกปี, เราได้ทำสิ่งที่ใครๆ ทำได้โดยยาก. เราเป็น ชินะ (ผู้ชนะ) ประกาศธรรมจักร ที่ป่าอิสิปตนะ เมืองพาราณสี, เป็นสัมมาสัมพุทธเจ้า ชื่อ โคตรมะ เป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลาย”

จากความข้างต้นนั้น จะเห็นได้ว่า ได้มีพระพุทธพจน์ว่า เจ้าชายสิทธัตถะนั้นได้อยู่ครองเรือน จนพระชนมายุ 29 ปี โดยมีพระชายาพระนามว่า ยโสธรา และมีบุตรด้วยกันจำนวน 1 คน คือ ราหุล จึงเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า เจ้าชายสิทธัตถะ (พระนามเดิมก่อนออกผนวช) มีบุตรแค่ 1 คน คือ ราหุล เท่านั้น มิได้มีบุตรอื่นใด