เมือวันที่ 19 เม.ย. จากกรณีการตามหาสุนัข “ซาร่า” ที่ทางเทศบาลเข้าไปช่วยกันจับออกมาจากบ้าน ในพื้นที่ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา หลังซาร่ากัดคุณยาย ผู้เป็นเจ้าของ โดยบอกว่าจะจับไปดูแลก่อน ระหว่างที่รอทางหน่วยงานมารับไปดูแลหลังสงกรานต์ แต่สุดท้ายซาร่าหายไปไร้ร่องรอย จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ซาร่ายังอยู่จริงไหม หรือจริงๆ แล้ว ซาร่าตายตั้งแต่ยังไปไม่ถึงเทศบาล

ล่าสุดมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ เผยข้อมูลหลังคุยกับนายกเทศมนตรีตำบลบางบาล ว่า ซาร่า ถูกพาตัวมาถึงเทศบาลและกำลังจูงลงจากรถเพื่อนำไปเข้ากรง แต่ซาร่าดิ้นรนสะบัดด้วยความตื่นตกใจ ทำให้คนจับต้องหยุดซาร่าด้วยการกดปากและตัวให้นิ่ง และนั่นคือการทำให้ซาร่ายิ่งช็อกและเจ็บปวดจนเลือดออกปาก แล้วในที่สุดซาร่าก็หยุดหายใจ บนความตกใจทำอะไรไม่ถูกของทีมจับทั้งหมด ทีมจับจึงนำซาร่าไปฝังไว้ แล้วรายงานนายกว่า สุนัขหลุด ด้วยความเกรงกลัวความผิด

ด้านนายชูเกียรติ บุญมี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางบาล ได้ออกมาขอโทษพร้อมเผยว่า พนักงานเทศบาลทั้ง 4 คน ที่ไปจับ “ซาร่า” ในวันดังกล่าว รับสารภาพแล้วว่า “ซาร่า” สุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน วัย 4 ปี ตายตั้งแต่ในวันที่ไปจับ เกิดจากการผิดพลาดจนเกิดความสับสน จับผิดวิธี ซึ่งเทศบาลเองยอมรับว่าไม่ได้มีความพร้อม ถือว่าเป็นบทเรียน ส่วนรายละเอียดต่างๆ ให้อยู่ในกระบวนการของกฎหมายและพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ซึ่งผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.บางบาล ไม่พบกับเจ้าหน้าที่ทั้ง 4 นาย ซึ่งไม่ทราบว่านำตัวไปสอบสวนที่ใด

ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.บางบาล ได้เดินทางไปยังจุดที่เจ้าหน้าที่ทั้ง 4 นาย ให้ข้อมูลว่า เป็นจุดที่ทิ้งศพซาร่า บริเวณริมถนนเลียบคลอง ต.ไทรน้อย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา บริเวณโดยรอบเป็นทุ่งนากว้าง มีป่าธูปขึ้น ห่างจากถนนไปเล็กน้อยพบโครงกระดูกบริเวณสันหลังและบริเวณส่วนกราม ซึ่งเป็นขนาดไม่ใหญ่มาก

เจ้าหน้าที่มูลนิธิต่างๆ ได้ร่วมตรวจสอบ ยังมีข้อสงสัยว่าชิ้นส่วนของโครงกระดูกดังกล่าวมีขนาดเล็กเกินไป อาจจะไม่ใช่โครงกระดูกของซาร่าจริงๆ

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้ให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย นำชิ้นส่วนของกระดูกที่เจอไปเก็บไว้ก่อน เพื่อประสานเจ้าหน้าปศุสัตว์ตรวจสอบร่วมกันอีกครั้ง