ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดที่ 2 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ซิตี แชมป์เก่าจากอังกฤษ เปิดรัง เอติฮัด สเตเดียม รับการมาเยือนของ รีล มาดริด แชมป์ 14 สมัยจากสเปน โดยเกมแรกที่สนาม ซานติอาโก เบร์นาเบว ของ “ราชันชุดขาว” ทั้ง 2 ทีมเสมอกันอย่างดุเดือด 3-3
เกมนี้ รีล มาดริด ออกตัวดี เมื่อทะยานขึ้นนำก่อน 1-0 จาก โรดรีโก โกเอส ที่ตามซ้ำลูกยิงของตัวเองที่โดน อันแดร์ซอน นายทวาร แมนฯ ซิตี ปัดกลับมาเข้าทางเข้าไปตุงตาข่ายในนาทีที่ 12
ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี พับสนามบุกแทบจะข้างเดียว และตามตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จจากการกดเสยเพดานตาข่ายจากระยะไม่ถึง 10 หลาของ เควิน เดอ บรอยน์ ในนาทีที่ 76 ครบ 90 นาที ทั้ง 2 ทีมเสมอกัน 1-1 ขณะที่ประตูรวมเสมอกัน 4-4 ต้องไปว่ากันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ
ช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 105+1 รีล มาดริด เกือบแซงนำได้อีกครั้ง เมื่อ บราอีม ดีอาซ เปิดบอลให้ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ตวัดยิงตามน้ำด้วยอีซ้ายหลุดกรอบไปหวุดหวิด
จากนั้นไม่มีใครทำอะไรกันได้อีกครบ 120 นาที แมนฯ ซิตี เสมอ รีล มาดริด 1-1 สกอร์รวมเสมอกัน 4-4 ต้องไปตัดสินด้วยการยิงจุดโทษผลปรากฏว่า รีล มาดริด ยิงแม่นกว่าคว้าชัยไปได้ 4-3 ตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปพบกับ บาเยิร์น มิวนิค จากเยอรมนี เ็นด่านต่อไป.
ภาพ AFP, gettyimages