จากกรณี พระกฤษฎา อายุ 65 ปี ขี่จักรยานยนต์พ่วงข้าง ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 100 สีน้ำเงิน ทะเบียน ขคม 525 นครสวรรค์ มาติดต่อขอทำบัตรประชาชนยังที่ว่าการอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี แต่เจ้าหน้าที่ทำให้ไม่ได้ เนื่องจากใบสุทธิไม่สมบูรณ์ ภายหลังมีการประสานพระผู้ใหญ่ให้ช่วยตรวจสอบ ทำให้ทราบว่า พระกฤษฎา จำวัดอยู่ที่วัดทรัพย์นาบุญญาราม ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/04/1712986509541.jpg)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 13 เม.ย. พระครูปลัดบุญส่ง เตชธโร เจ้าอาวาส วัดทรัพย์นาบุญญาราม พร้อมด้วย พระครูยอด ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดเทพประสาท และน.ส.เตือนจิตร์ ทรัพย์นา ผู้ใหญ่บ้านนาจอมเทียนหมู่ที่ 8 ร่วมกันสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ “พระกฤษฎา” ภายหลังสามารถสรุปรายละเอียดได้ดังนี้ เริ่มจาก พระกฤษฎา ขี่จักรยานยนต์ มาขอทางเจ้าอาวาส จำวัดเป็นเวลา 1 คืน สภาพตอนนั้นมีผมยาว ที่คอแขวนพระเครื่อง ทางเจ้าอาวาสให้ดำเนินการโกนผมให้เรียบร้อย รวมถึงให้นำสร้อยพระออก และห้ามขี่จักรยานยนต์ไปในเมือง เนื่องจากเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ประชาชนติเตียน และผิดตามข้อห้ามที่มหาเถรสมาคมได้มีมติห้ามไว้
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/04/1712986509407.jpg)
จากนั้นได้ทำการตรวจสอบ “ใบสุทธิ” ปรากฏว่ามีความไม่สมบูรณ์ เนื่องจากไม่มีเจ้าอาวาสวัดใดเซ็นกำกับให้พระรูปนี้อยู่ในสังกัดของวัด กล่าวคือ พระไม่มีสังกัดวัดอยู่นั่นเอง จึงเข้าข่ายตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์-กฎมหาเถรสมาคม ที่ระบุว่า “…ภิกษุไม่สังกัดอยู่ในวัดใดวัดหนึ่ง เสี่ยงต้องถูกสึก…” ส่วนสาเหตุที่มาบวชเป็นพระ เพื่อต้องการมาแก้บน ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์โควิด-19 มาได้
เบื้องต้นทางคณะสงฆ์ได้ติดต่อไปยังวัดต้นสังกัด ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา หลังเจ้าอาวาสรับทราบเรื่องแล้วได้ยืนยันว่า ไม่ขอรับพระรูปนี้อยู่ในสังกัด อนุญาตให้ทำการสึกได้ ทางคณะสงฆ์เปิดโอกาสให้ พระกฤษฎา ติดต่อไปยังวัดอื่นๆ ที่อาจจะมีความรู้จักมักคุ้นหรือเคยจำวัดมาก่อนเพื่อให้สามารถมารับรองได้ แต่ก็ไม่มีวัดใดกล้ารับรอง สุดท้าย พระกฤษฎา จึงตัดสินใจลาสิกขาเป็นฆราวาส.
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/04/1712986509898.jpg)