ศึก “ONE ลุมพินี 58” ที่เพิ่งมีขึ้นที่เวทีมวยลุมพินี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ถือเป็นศึกใหญ่ที่เต็มไปด้วยคู่มวยระดับแม่เหล็ก ซึ่งคู่เอกเป็น ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์ จอมเตะก้านคอวัย 33 ปี จากพัทลุง เอาชนะคะแนนคู่ปรับเก่า มารัต กริกอเรียน จากอาร์เมเนีย คว้าแชมป์แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) เฉพาะกาลไปครอง
อย่างไรก็ตาม มีคู่หนึ่งที่แม้ไม่ได้เป็นคู่เอกนำรายการ แต่มีความน่าสนใจเมื่อ เจค พีค็อก นักชกชาวอังกฤษ ประเดิมขึ้นสังเวียนในศึก ONE Championship เป็นครั้งแรก หลังได้แชมป์ในศึก Road to ONE: Canada ก่อนหน้านี้ ทั้งที่เจ้าตัวพิการแขนขวาด้วนตั้งแต่ใต้ข้อศอกลงไปมาตั้งแต่กำเนิด โดยพบกับ โคเฮอิ ชินโจ จากญี่ปุ่น ซึ่งผลปรากฏว่า พีค็อก โชว์เพลงเตะเล่นงานนักสู้จากแดนปลาดิบเสียอ่วมอรทัย ก่อนชนะคะแนนไปอย่างสวยงาม
สำหรับ เจค “เดอะ วัน” พีค็อก วัย 30 ปี เป็นลูกชายของ เกวิน พีค็อก อดีตนักเตะของ เชลซี ในยุค 90 ซึ่งปัจจุบันผันตัวไปเป็นบาทหลวงอยู่ที่แคนาดา ขณะที่คุณปู่ของเขาคือ คีธ พีค็อก แข้งระดับตำนานของ ชาร์ลตัน แอธเลติก ผู้ลงสนามให้ทีม “ดาวอัศวิน” ไปมากกว่า 500 นัด อย่างไรก็ตาม เจค โชคร้ายพิการแขนขวามาแต่กำเนิด เพราะถูกถุงน้ำคร่ำพันแขนขวาขณะอยู่ในครรภ์มารดา ทำให้แขนไม่เจริญเติบโตตามที่ควรจะเป็น ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้เพียง 1 ใน 10,000 เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ความพิการไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตของ เจค และด้วยสายเลือดนักกีฬาที่มีอยู่ในตัว ทำให้เขาเลือกที่จะขึ้นสังเวียนชกมวย เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คน โดยกล่าวว่า “ผมหวังว่าเรื่องของผมจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน บางคงอาจกังขาและตั้งข้อสงสัยในตัวผม แต่พอพวกเขาเห็นศักยภาพของผม และเห็นแล้วว่าผมทำอะไรได้บ้างแล้ว ผมก็หวังว่ามันจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาด้วย”
“เท่าที่ผมจำความได้ ผมเล่นกีฬาได้ทุกอย่าง ฟุตบอล ว่ายน้ำ บาสเกตบอล พ่อแม่สนับสนุนผมทุกอย่าง และคอยชี้นำผมไปในทางใดทางหนึ่ง แต่พวกเขาจะปล่อยให้ผมตัดสินใจด้วยตัวเองเสมอ พ่อผมเตะบอลหาเลี้ยงชีพ ส่วนผมเตะศีรษะคู่ต่อสู้ ปู่ของผมก็ลงเล่นเกิน 500 นัดให้กับ ชาร์ลตัน แอธเลติก ความเป็นนักกีฬามันอยู่ในสายเลือด สิ่งเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจสำหรับผม และทำให้ผมรู้สึกว่าผมต้องเป็นนักกีฬาอาชีพในระดับสูง เพราะปู่ผมก็เป็นนักกีฬาอาชีพ พ่อของผมก็เป็น ตอนนี้ผมก็เป็นนักกีฬาอาชีพเช่นกัน ดังนั้น ผมรู้สึกว่าผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้”