ตามที่ สหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติแห่งอาเซียน (ซีบ้า) มอบหมายให้สมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการ “ฟีบ้า ยู-18 วูเมนส์ เอเชีย คัพ-ซีบ้า ควอลิฟาย 2024” หรือศึกบาสเกตบอลหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือกอาเซียน 2024 ระหว่างวันที่ 24-26 พ.ค. 67 ที่ จ.ราชบุรี โดยมีทีมบาสเกตบอลหญิงเข้าร่วม 4 ประเทศ ประกอบด้วย อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และ ไทย เพื่อจะเฟ้นหาทีมที่จะได้สิทธิผ่านขึ้นสู่ดิวิชั่น B ก่อนจะคัดเลือกรอบสุดท้ายเพื่อเป็นตัวแทนอาเซียน ไปแข่งขัน “ฟีบ้า ยู-18 วูเมนส์ เอเชีย คัพ 2024” ระหว่างวันที่ 24-30 มิ.ย. 67 ที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน ต่อไปนั้น
ล่าสุด “เฮียต่าย” นิพนธ์ ชวลิตมณเฑียร นายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่มาเริ่มจากที่มีรายการนี้ขึ้นและทางประธานฟีบ้าเอเชีย อยากให้ซัพโซนของแต่ละโซนแต่ละภูมิภาคของทวีปเอเชีย จัดแมตช์ระดับเยาวชนให้มากขึ้น ซึ่งในประเภทยู-18 ชาย ประเทศมาเลเซีย เสนอตัวเป็นเจ้าภาพไปก่อนแล้ว ทางไทยจึงรับจัดแมตช์ยู-18 หญิง ในครั้งนี้
ทางคณะกรรมการของสมาคมฯ ได้มีมติไปจัดที่ราชบุรี ซึ่งได้รับความร่วมมืออันดีจากทางผู้ใหญ่ของจังหวัดสนับสนุนในเรื่องต่างๆ ทั้งสนามที่มีการปรับปรุงใหม่ให้ดีขึ้น ที่พักที่จะรองรับนักกีฬาต่างชาติที่ได้มาตรฐาน เพราะเพิ่งจัดกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 39 จบไปหมาดๆ ด้วย การเดินทางจากกรุงเทพฯ ก็สะดวก ไม่ได้ไกลมาก ตรงตามนโยบายของทางฟีบ้าเอเชีย ที่อยากให้แต่ละซัพโซนกระจายการแข่งขันของเยาวชนออกจากตัวเมืองหลวงของประเทศตนเอง และครั้งนี้แม้เราไม่มีงบประมาณการสนับสนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย แต่เราได้ทาง ธ.ก.ส. ที่มีโครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ เข้ามาสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือ ก็ต้องขอขอบคุณทาง ธ.ก.ส.ด้วย
“เฮียต่าย” กล่าวต่อว่า รายการครั้งนี้จะแข่งแบบพบกันหมดของทั้ง 4 ประเทศ แต่ทางอินโดนีเซียและมาเลเซีย ได้โควตาผ่านขึ้นไปในดิวิชั่น B ไปก่อนแล้ว ดังนั้นในรายการนี้แม้จะพบกันหมดแต่ขอให้ทีมหญิงยู-18 ไทย มีผลงานที่จบมาดีกว่าฟิลิปปินส์ เท่านั้น ส่วนเรื่องของตัวผู้เล่น นักกีฬาไทยชุดนี้ ได้ทีมสตาฟฟ์ของสมาคมฯ เฟ้นหาผู้เล่นที่ดีที่สุดจากมหกรรมกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ที่เพิ่งจบไปเป็นหลัก รวมทั้งเราได้เปลี่ยนจากโค้ชต่างชาติมาเป็น อ.สมถวิล รัตโนภาส ผู้ฝึกสอนชื่อดังระดับประเทศของทีมนครปฐม ซึ่งเป็นมหาอำนาจของทีมบาสเยาวชนหญิงของไทย เพราะได้รับกระแสคอมเมนต์มาจากบรรดาครูบาสเยาวชนจากทั่วประเทศว่าควรใช้โค้ชไทย ที่มีความเข้าใจในตัวนักกีฬาคนไทยมากกว่า ซึ่งตนมองแล้วเชื่อว่าเด็กเยาวชนไทยมีดีพอที่สามารถจะชนะได้ทุกทีม
“ในฐานะนายกสมาคมฯ อยากให้ร่วมเดินทางไปเชียร์นักกีฬาทีมชาติเรากันเยอะๆ พื้นฐานจากทีมชาติชุดใหญ่ก็จะมาจากเด็กๆ เยาวชนรุ่น 16-18 ปีนี้ เพราะอีก 2-3 ปีพวกเขาเหล่านี้ก็จะขึ้นมาเป็นกำลังของประเทศหน้าใหม่ เราจะพยายามปูทางเด็กเยาวชนเราจากอาเซียน ขึ้นไปสู่ระดับเอเชียต่อไปเรื่อยๆ” ประมุขยัดห่วงไทย กล่าว.