เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 67 ได้มีกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจ การคัดเลือกรอบประเทศ “โครงการโตโยต้า จูเนียร์ ฟุตบอลคลินิก 2024” โดยมี “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ จอมทัพ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลชาติไทย มาเข้าร่วมแคมป์เพื่อปลุกแรงบันดาลใจกับน้องๆ ที่ได้รับคัดเลือกจากทั่วประเทศ จากการคัดเลือกรูปแบบจังหวัดทั้ง 7 จังหวัด ประกอบด้วย สุพรรณบุรี, สงขลา, บุรีรัมย์, ราชบุรี, อุทัยธานี, ชลบุรี และเชียงราย รวมทั้งสิ้น 210 คน เข้ารับการคัดเลือกรอบสุดท้าย ที่สนามกีฬาหัวหมาก

โดยจะคัดเลือกผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 46 คน เพื่อเข้าแคมป์เก็บตัวกับทีมผู้ฝึกสอนจาก “เอสทีบี” ที่ศูนย์พัฒนาศักยภาพกีฬาฟุตบอล ภายใน ม.กรุงเทพธนบุรี รวมเวลา 3 วัน 2 คืน และหากได้รับการคัดเลือกเข้ารอบ 23 คน เพื่อเป็นตัวแทนแบรนด์โตโยต้า จะต้องเข้าร่วมงานแถลงข่าวและเดินทางไปเก็บตัวที่ญี่ปุ่น รวมถึงเข้าแข่งขันเป็นตัวแทน “แบรนด์โตโยต้า” ในการเข้าร่วมการแข่งขัน ตลอดปี 2567 อาทิ โครงการ Jintan U-14 ASEAN Dream Football Tournament ซึ่งเป็นการแข่งขันฟุตบอลที่นำนักเตะเยาวชนจากไทย, ญี่ปุ่น และในกลุ่มอาเซียน จำนวน 12 ทีม เข้าดวลแข้งลีกเยาวชน ที่สนามฟุตบอลโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ (VERSO International School) เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะการเล่นฟุตบอลของเยาวชนอาเซียน พร้อมคัดเลือกเยาวชนที่มีทักษะและฝีเท้าที่โดดเด่นไปเปิดประสบการณ์ฝึกทักษะกับสโมสรชั้นนำภายใต้ J-League ลีกฟุตบอลอาชีพระดับสูงสุดของญี่ปุ่น เป็นต้น

“เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ปัจจุบันค้าแข้งกับบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในศึกรีโว่ ไทยลีก เล่าย้อนอดีตให้ฟังว่า “เมื่อก่อนผมต้องไปคัดแบบนี้ สุดท้ายแล้วก็อาจจะมีคนที่ถูกเลือก และอาจจะมีคนไม่ถูกเลือก ก็อยากให้ผู้ปกครองไม่ว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับลูกตัวเอง หรือแม้กระทั่งกับน้องๆ ความผิดหวังมันเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ก็ไม่ต้องเสียใจ เวลาที่เราจะเล่นฟุตบอลมันยังมีอีกเยอะ วันนี้เราอาจจะไม่ได้ถูกเลือกแต่วันหนึ่งเราอาจจะถูกเลือก สุดท้ายแล้วถ้าเรามีความพยายาม แล้วก็ฝึกฝนอยู่ในเส้นทางฟุตบอลที่เรารักและเราก็สนุกกับสิ่งที่เราทำ วันหนึ่งจะมีโอกาสมาหาเราแล้วเราก็จะคว้าโอกาสนั้นไว้ได้ ซึ่งตัวผมเองนั้นก็เคยเป็นเด็กที่เคยไปคัดตัวเคยถูกปฏิเสธบ่อยครั้งมากๆ กว่าจะติดทีมชาติครั้งแรก ตอนอายุ 18 ปี เพื่อนผมติดตอนอายุ 12, 14, 16 ปี ผมไม่เคยได้ถูกเลือกเลย”

เจ้าเจ กล่าวต่อว่า “แม้กระทั่งผมไปคัดที่โรงเรียนต่างๆ เขาก็ไม่เลือกผม พี่อยากจะบอกน้องๆ ว่าน้องๆ ยังมีอนาคตที่สดใส เพียงแต่ว่าเราต้องมีวินัยในการซ้อม กินอาหารให้ร่างกายเราแข็งแรง ยิ่งเรามีเบสิกที่ดีแล้วยังไงเราก็เก่ง เก่งกว่าพี่เจแน่นอน ดูพี่เจสิ พี่เจตัวเล็กกว่าน้องๆ ทุกคนเลย แต่พี่เจยังเล่นลีกระดับสูงได้เลย เพราะพี่เจซ้อมมาหนัก ถูกเคี่ยวเข็ญมาตั้งแต่เด็ก เพราะเราอยากเป็นนักฟุตบอลที่เก่งกว่าคนอื่น พี่เจเลยต้องซ้อมหนัก”

แฟนกีฬาติดตามความเคลื่อนไหว และเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจของวงการลูกหนังไทยได้ที่ TOYOTA Spirit of Football