ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ ครม.เห็นชอบให้ปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่ ซึ่งจะทำให้ราคาบุหรี่ในท้องตลาดแพงขึ้นตั้งแต่ 1 ต.ค.64 เป็นต้นไปนั้น พบว่าได้เริ่มมีปัญหากักตุนและขึ้นราคาล่วงหน้า โดยบรรดาสิงห์อมควันต่างร้องเรียนมาจำนวนมากว่า ร้านค้าได้ขยับขึ้นราคาล่วงหน้าแล้วซอง 5 บาท อีกทั้งของยังขาดตลาด ไม่สามารถหาซื้อได้ โดยร้านค้าต่างบกว่าของหมด จะต้องรอหลังวันที่ 1 ต.ค.ถึงมีขาย โดยเฉพาะบุหรี่ยอดนิยมซอง 60 บาท และบุหรี่นำเข้าจากต่างประเทศ

เมื่อผู้สื่อข่าวลงสำรวจสอบถามบรรดาร้านสะดวกรายใหญ่ ต่างระบุว่าของหมดตั้งแต่เมื่อบ่ายวันที่ 28 ก.ย. หลังจากมีข่าวว่ารัฐบาลจะขึ้นภาษีบุหรี่ ก็ทำให้บรรดาสิงห์อมควัน รวมถึงร้านค้า โชห่วยเข้ามากว้านซื้อตุนล่วงหน้าคนละเป็น 10 ซองเพื่อเก็บไว้สูบ หรือรอฟันส่วนต่างกำไรนำไปขายหลังวันที่ 1 ต.ค.นี้ โดยคาดการณ์ว่าหลังภาษีสรรพสามิตบุหรี่ใหม่ใช้วันที่ 1 ต.ค. บุหรี่ซอง 55 บาท อาจเพิ่มขึ้นเป็น 64 บาท ส่วนบุหรี่ซอง 60 บาท มีโอกาสปรับขึ้นสูงสุดถึง 70-72 บาท ส่วนบุหรี่ราคาสูงอย่างซอง 95 บาท อาจขึ้น 110-115 บาท 

ด้าน นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวว่า ยอมรับว่าตอนนี้บุหรี่ขาดตลาดจริง โดยร้านขายส่งได้กักตุนกันล่วงหน้าตั้งแต่ 2-3 สัปดาห์ที่แล้ว และล่าสุดก็ทยอยปล่อยของออกมาบ้าง แต่ก็ขึ้นราคากันล่วงหน้า โดยราคาขายส่งคอตตอนหนึ่งขึ้นไป 50 บาท ทำให้โชห่วยร้านค้าปลีก ต้องขยับขึ้นจากซอง 60 บาท เป็นซอง 65 บาท แต่ก็ถือว่าจำเป็นทำเพื่อให้มีของไว้ขายเพราะตอนนี้ลูกค้ามาถามหากันมาก หากไม่มีของนานก็กลัวลูกค้าจะหนีไปซื้อร้านอื่น นอกจากนี้ยังกังวลในอนาคตหากบุหรี่ในประเทศแพงขึ้นจะมีบุหรี่เถื่อนลักลอบเข้ามาขายเพิ่มอีกด้วย

ด้านรายงานข่าวจากกรมสรรพสามิตแจ้งว่า ขณะนี้ขอความร่วมมือให้บรรดาร้านค้าส่ง ร้านค้าปลีก รวมถึงผู้ผลิตและจำหน่ายอย่าฉวยโอกาสขึ้นราคา เพราะจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมผู้บริโภคที่ขณะนี้ได้รับผลกระทบจากโควิดมากอยู่แล้ว นอกจากนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.64 เป็นต้นไป กรมฯจะส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมตรวจสต๊อกบุหรี่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะตามโรงงานผลิต โกดัง ร้านค้าส่งขนาดใหญ่ เพื่อไม่ให้มีการกักตุน หรือฉวยโอกาสนำสินค้าเก่ามาฉวยโอกาสขึ้นราคา หากพบผู้กระทำผิดจะมีบทลงโทษ