นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ขบวนรถโดยสารนั่งปรับอากาศชั้น 2 สำหรับผู้พิการ ได้ชะลอการให้บริการชั่วคราว เนื่องจากรถโดยสารดังกล่าว อยู่ระหว่างการปรับปรุงอยู่ หลังจากที่ผ่านมาได้นำออกมาให้บริการเป็นเวลานาน ตั้งแต่ปี 55 จนทำให้รถโดยสารชำรุดทรุดโทรมไปมาก ปัจจุบันมีตู้โดยสารนั่งปรับอากาศชั้น 2 อยู่ในแผนการปรับปรุงทั้งสิ้น 10 คัน และจะทยอยเสร็จสมบูรณ์ สามารถนำกลับมาให้บริการตามขบวนต่างๆ ตามปกติได้ 2 คัน ในช่วงปลายเดือน มี.ค. 67 จากนั้นในเดือน เม.ย. 67 จะเสร็จเพิ่มอีก 3 คัน เดือน พ.ค. 67 เสร็จ 2 คัน และเดือน ต.ค. 67 เสร็จ 2 คัน ส่วนอีก 1 คันที่เหลือ ชำรุดมากจนไม่สามารถซ่อมแซมได้
นายเอกรัช กล่าวต่อว่า เมื่อปรับปรุงแล้วเสร็จ ขบวนรถโดยสารนั่งปรับอากาศชั้น 2 สำหรับผู้พิการ จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งห้องสุขาระบบปิด มีระบบลิฟต์โดยสาร บันไดขึ้นลง เพื่อรองรับชานชาลาสูง พร้อมทั้งมีระบบไฟฟ้าที่สามารถรองรับกระแสไฟฟ้าจากรถโบกี้จ่ายไฟฟ้ากำลังปรับอากาศ หรือรถ Power Car ได้ ตลอดจนการปรับปรุงส่วนอื่นๆ ให้มีความสะดวกเหมาะสำหรับผู้พิการ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก และปลอดภัย
นายเอกรัช กล่าวอีกว่า ระหว่างที่ขบวนรถโดยสารนั่งปรับอากาศชั้น 2 สำหรับผู้พิการอยู่ระหว่างการปรับปรุงนั้น รฟท. ได้เตรียมพร้อม โดยมีขบวนรถโดยสารขบวนรถด่วนพิเศษ CNR (115 คัน) ที่สามารถรองรับการเดินทางสำหรับผู้พิการในเส้นทางสายใต้ สายเหนือ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ คอยให้บริการครอบคลุมการเดินทางทุกภาคอยู่แล้ว และที่สำคัญ นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการ รฟท. ได้ให้นโยบายเพิ่มเติม ให้ปรับปรุงตู้โดยสารนั่งปรับอากาศชั้น 2 สำหรับผู้พิการ เพื่อทดแทนตู้โดยสารรุ่นเก่าเพิ่มอีก 16 คัน โดยให้เป็นห้องสุขาระบบปิด บันไดขึ้นลงที่รองรับชานชาลาสูง และระบบไฟฟ้าให้สามารถรองรับกระแสไฟฟ้าจากรถ Power Car เป็นต้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการลงนามสัญญาจ้างบริษัทเอกชน เพื่อดำเนินการ คาดว่าจะเริ่มปรับปรุงรถโดยสารได้ในปี 68
นายเอกรัช กล่าวด้วยว่า รฟท. ให้ความสำคัญต่อการให้บริการแก่ประชาชนทุกเพศทุกวัย ให้สามารถเข้าถึงการเดินทางทางรถไฟได้อย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายผู้ว่าการ รฟท. ที่สนับสนุนให้มีการออกแบบขบวนรถ และสถานี โดยคำนึงถึงหลักอารยสถาปัตย์ (universal design) ให้เหมาะสมแก่ผู้โดยสารทุกคน ไม่ว่าจะเป็น ผู้พิการ ผู้สูงวัย เด็ก สตรีมีครรภ์ ตลอดจนผู้โดยสารที่มีสัมภาระขนาดใหญ่ ให้ได้รับความสะดวกในการขึ้น-ลงขบวนรถโดยสาร ตลอดจนเกิดความพึงพอใจสูงสุดในการใช้บริการ ทั้งนี้ รฟท. ขอขอบคุณ และพร้อมรับฟังทุกความคิดเห็นจากผู้ใช้บริการ เพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงการให้บริการในด้านต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป.