นางพนิดา ทองสุข รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร รักษาการแทน ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ตามมติที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เมื่อวันที่ 27 ก.ย.64 เห็นชอบให้มีการลดระยะเวลา การห้ามออกนอกเคหสถาน จากเดิม เวลา 21.00-04.00 น. ปรับลดลงเป็นเวลา 22.00-04.00 น. และอนุญาตให้ห้างสรรพสินค้า เปิดกิจการได้ถึง เวลา 21.00 น. ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.64 เป็นต้นไป ขสมก. จึงจัดแผนการเดินรถโดยสาร (รถเมล์) ให้สอดคล้องกับมติที่ประชุม ศบค. โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.ปรับเปลี่ยนเวลาให้บริการรถเมล์จากเดิมให้บริการ เวลา 05.00-21.00 น. (เวลา 21.00 น. คือ เวลาที่รถเมล์คันสุดท้าย ออกจากท่าปลายทาง) เป็นให้บริการเวลา 05.00-22.00 น. (เวลา 22.00 น. คือ เวลาที่รถเมล์คันสุดท้าย ออกจากท่าปลายทาง) ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.64 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น โดยเพิ่มความถี่ในการปล่อยรถ ช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า (05.00-08.00 น.) และช่วงเวลาเร่งด่วนเย็น ถึงเวลาก่อนรถเมล์หยุดให้บริการ (16.00-22.00 น.) ให้มีระยะห่างกันไม่เกิน 5-10 นาที หรือจัดเดินรถให้สอดคล้องกับความต้องการใช้บริการของประชาชน
นางพนิดา กล่าวต่อว่า 2.ให้บริการรถเมล์ วันธรรมดา 22,000 เที่ยว/วัน วันเสาร์-วันอาทิตย์ 18,000-20,000 เที่ยว/วัน หรือจัดเดินรถให้สอดคล้องกับความต้องการใช้บริการของประชาชนในแต่ละช่วงเวลา 3.ปล่อยรถเมล์คันสุดท้าย ออกจากท่าปลายทาง จากเดิม เวลา 21.00 น. เป็นเวลา 22.00 น. พร้อมปรับเพิ่มความถี่ ในช่วงการปล่อยรถ 3 คันสุดท้ายให้มีระยะห่างกัน 5-10 นาที ซึ่งรถเมล์ 3 คันสุดท้าย จะติดป้ายข้อความบ่งชี้บริเวณหน้ารถเมล์ดังนี้ 1.เหลือรถ 2 คันสุดท้าย 2.เหลือรถ 1 คันสุดท้าย และ 3.รถคันสุดท้าย
ทั้งนี้ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้แก่ สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งขณะใช้บริการรถเมล์ นั่งหรือยืนตามจุดที่กำหนด กรณีผู้ใช้บริการเต็มจะต้องรอใช้บริการรถเมล์คันถัดไป รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ เตรียมตัวกลับบ้าน ก่อนเวลา 20.00 น. เพื่อลดความแออัดของผู้ใช้บริการบนรถเมล์ในช่วงเวลาก่อนรถเมล์หยุดให้บริการ (21.00-22.00 น.) ซึ่งจะทำให้การดำเนินการตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมบนรถเมล์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ