หลังจากได้เห็นโฉมหน้าทีมที่ฝ่าด่านโหดเข้ามาสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2023/24 ซึ่งมีการจับสลากประกบคู่ และแบ่งสายตั้งแต่รอบก่อนรองชนะเลิศ ไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศกันไปแล้ว เมื่อวันศุกร์ที่ 15 มี.ค. ทีมข่าวกีฬาเดลินิวส์ จึงขอพาทุกท่านไปส่องดูกันว่า นักเตะคนไหนคือดาวเด่น และทำผลงานได้อย่างร้อนแรงที่สุดของแต่ละทีม ใน 2 รอบที่ผ่านมา

บาเยิร์น มิวนิก
“เสือใต้” มาพร้อมกับดีกรีแชมป์ 6 สมัย ชนะ 6 จาก 8 นัดในถ้วยยุโรปฤดูกาลนี้ โดยการแพ้นัดแรกเกิดขึ้นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ผ่านมาต่อ ลาซิโอ 0-1 แต่กลับมาแก้ตัวผ่านเข้ารอบได้สำเร็จในนัดที่ 2 ทีเด็ดอยู่ที่การจบสกอร์ของ “แฮร์รี เคน” ศูนย์หน้าตัวเก่ง ซึ่งซัดไปแล้ว 6 ประตู นำดาวซัลโวร่วมของศึกยูซีแอล ฤดูกาลนี้

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
“เปแอสเช” ผ่านกลุ่มหฤโหดมาในฐานะแชมป์กลุ่ม ต้องดวลกับ รีล โซเซียดัด ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งพวกเขาสามารถเอาชนะไปด้วยประตูรวม 4-1 โดยดาวเด่นของทีมยังคงเป็น “คีลิยัน เอ็มบัปเป” ที่จัดไป 6 ประตู นำดาวซัลโวร่วม โดยนักเตะอีกคนที่สามารถประสานงานกับ ประธานเป้ ได้อย่างเข้าขารู้ใจคือ “วาร์เรน ซาอีร์-เอเมรี” กองกลางดาวรุ่ง ที่ทำไปแล้ว 3 แอสซิสต์

แมนเชสเตอร์ ซิตี
แชมป์เก่าอย่าง “เรือใบสีฟ้า” ยังคงมีฟอร์มสุดโหด ชนะ 8 นัดรวดในถ้วยบิ๊กเอียร์ฤดูกาลนี้ พร้อมทำสถิติกระหน่ำ 24 ประตู (เฉลี่ยนัดละ 3 ประตู) โดยนักเตะตัวจี๊ดของ เดอะ ซิติเซนส์ คือ 3 แนวรุกพระกาฬอย่าง “เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์”, “ฮูเลียน อัลวาเรซ” และ “ฟิล โฟเดน” ที่ช่วยกันซัดไปแล้วถึง 15 ประตู

รีล มาดริด
ชัยชนะ 7 จาก 8 นัด พาเจ้ายุโรป “ราชันชุดขาว” ผงาดเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ โดยในรอบ 16 ทีมสุดท้าย พวกเขาอาจจะฟอร์มฝืดเล็กน้อย หลังเฉือน แอร์เบ ไลป์ซิก ด้วยสกอร์รวมสุดจุ๋มจิ๋มแค่ 2-1 โดยดาวเด่นของพลพรรค โลส บลังโกส ในซีซั่นนี้คือ “จูด เบลลิงแฮม” สตาร์คนใหม่ ที่ทำไปแล้ว 4 ประตู กับ 4 แอสซิสต์ ผนึกกำลังกับ “วินิซิอุส จูเนียร์” ที่ซัดไป 3 ประตู

อาร์เซนอล
“ทัพปืนใหญ่” อีกหนึ่งตัวแทนจากเกาะอังกฤษ ต้องพึ่งดวงเล็กน้อยในการฝ่าด่าน ปอร์โต ด้วยการเอาชนะในการดวลจุดโทษ 4-2 (หลังรวมผล 2 นัด เสมอ 1-1) โดย “กาเบรียล เชซุส” กองหน้าทีมชาติบราซิล คือนักเตะที่โดดเด่นที่สุดของพวกเขาบนเวทียูซีแอล หลังซัดไปแล้ว 4 ประตู ขณะที่ “บูกาโย ซากา” ปีกตัวความหวัง รับบทตัวสร้างสรรค์เกม หลังทำไปแล้ว 4 แอสซิสต์

บาร์เซโลนา
“เจ้าบุญทุ่ม” ยอดทีมแห่งสเปน มาเร่งเครื่องในเกมที่ 2 ก่อนสามารถหักด่าน นาโปลี มาได้ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยสกอร์รวม 4-2 โดยแข้งที่โชว์ผลงานได้ยอดเยี่ยม หนีไม่พ้น “โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี” และ “ชูเอา เฟลิกซ์” ที่ซัดไปแล้วคนละ 3 ประตู ซึ่งก็ต้องขอบคุณตัวเปิดป้อนบอลอย่าง “ราฟินญา” และ “อิลคาย กุนโดกัน” ที่แอสซิสต์รวมกันถึง 7 ประตู

โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์
“เสือเหลือง” ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ ด้วยการเอาชนะ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 3-1 โดย “มาร์โก รอยส์” ทำไป 2 ประตู 1 แอสซิสต์ “คาริม อเดเยมี” ซัด 2 ประตู ส่วนบทบาทตัวป้อนดับวิญญาณเป็นของ “มาร์เซล ซาบิทเซอร์” ห้องเครื่องทีมชาติออสเตรีย ที่ทำไปแล้ว 3 แอสซิสต์

แอตเลติโก มาดริด
“ตราหมี” ฝ่าด่าน “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน มาได้แบบสุดดราม่า หลังคว้าชัยในการดวลจุดโทษ 3-2 (หลังจากเสมอกันในเวลา 2-2) โดยทีเด็ดของพวกเขายังเป็นขวัญใจคนเดิมอย่าง “อองตวน กรีซมันน์” ที่ซัดไป 6 ประตู นำดาวซัลโวร่วมของรายการ ผนึกกำลังกับ “อัลบาโร โมราตา” ที่ทำไป 5 ประตู ส่วนตัวป้อนชั้นยอดเป็น “ซามูเอล ลีโน” และ “นาอวล โมลีนา” ที่แอสซิสต์รวมกัน 6 ประตู